ผลสำรวจบริเวณจุดเลือกตั้งเปิดเผยว่า พรรครัฐบาลผสมของชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คว้าชัยชนะอย่างล้นหลามจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โพลสำนักข่าว NHK เปิดเผยว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) จะได้ที่นั่งประมาณ 253-300 ที่นั่งจากทั้งหมด 456 ที่นั่งในสภา ขณะที่พรรคโคเมอิโตะที่เป็นพันธมิตรรัฐบาลผสมคาดว่าจะได้ 27-36 ที่นั่ง
ผลสำรวจนี้ชี้ว่ารัฐบาลผสมของอาเบะอาจครองเก้าอี้ในสภา 312 ที่นั่ง ซึ่งมากกว่า 2 ใน 3 ทำให้สามารถยึดสถานะรัฐบาลเสียงข้างมากต่อไปได้ โดยผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศขึ้นภายในวันจันทร์นี้
ชัยชนะการเลือกตั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้นำวัย 63 ปีครองตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ต่อไปอีก 3 ปี จากการลงคะแนนที่จะมีขึ้นในกันยายนปีหน้า และจะมอบโอกาสให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองเก้าอี้นานที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเลือกเมื่อปี 2012
อาเบะประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าต้องการอาณัติใหม่จากประชาชนในการจัดการ ‘ภัยระดับชาติ’ ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่
อาเบะกล่าวคำปราศรัยหลังชนะเลือกตั้งว่า “อย่างที่ผมได้ให้สัญญาไว้ในการเลือกตั้ง ภารกิจของผมคือการจัดการกับเกาหลีเหนือด้วยความหนักแน่น” พร้อมย้ำอีกว่า “สำหรับเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการทูตที่เข้มแข็ง”
ช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแสดงท่าทีแข็งกร้าวโดยทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามฮอกไกโด 2 ครั้ง พร้อมขู่จะจมญี่ปุ่นลงทะเล
นอกจากนี้การเลือกตั้งยังมีความสำคัญในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อต้านสงครามที่ประกาศใช้โดยสหรัฐอเมริกาในปี 1947 โดยมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าไม่ให้ญี่ปุ่นยุ่งเกี่ยวกับสงครามโดยสมบูรณ์
ญี่ปุ่นมีความพยายามที่จะแก้ปัญหานี้โดยระบุว่า กองทัพมีไว้เพื่อป้องกันประเทศ อย่างไรก็ตาม อาเบะเคยประกาศกำหนดเส้นตายปี 2020 ว่าต้องการแก้ไขกฎหมายนี้ด้วยการ ‘ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้’
อ้างอิง: