รัฐบาลจีนเตือนว่าสหรัฐฯ กำลังผลักความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับจีนไปสู่สงครามเย็นครั้งใหม่ สืบเนื่องจากกรณีวอชิงตันกล่าวหาจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่สองชาติกำลังโต้ฝีปากกันอย่างดุเดือด และล่าสุดมีชนวนความขัดแย้งเพิ่มขึ้นจากกรณีที่จีนผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่มุ่งควบคุมฮ่องกงให้เข้มงวดมากขึ้น
หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีนว่า สหรัฐฯ โกหกเรื่องที่บอกว่าจีนรับมือกับโรคระบาดอย่างไม่โปร่งใส พร้อมยืนยันว่าจีนพร้อมเปิดทางให้นานาชาติตรวจสอบหาที่มาของไวรัส แต่การสืบสวนนั้นต้องปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง และต้องตั้งอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
ขณะเดียวกัน หวังอี้ยังระบุว่าสหรัฐฯ ติดเชื้อไวรัสการเมือง ซึ่งหมายถึงการใช้โอกาสที่มีอยู่ทั้งหมดกล่าวโจมตีและใส่ร้ายป้ายสีจีน โดยนักการเมืองบางคนไม่สนใจข้อเท็จจริงพื้นฐานและปั้นข้อมูลเท็จมากมายเพื่อให้ร้าย รวมถึงสร้างทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เช่น กล่าวหาว่าไวรัสโคโรนา 2019 หลุดออกมาจากห้องแล็บในสถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น
เขาเตือนว่าแรงผลักดันทางการเมืองในสหรัฐฯ ได้นำความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมาเป็นตัวประกัน และกำลังผลักสองประเทศไปสู่สงครามเย็นครั้งใหม่
ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตกต่ำลงอย่างมากหลังเกิดโรคระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ความขัดแย้งนั้นฝังรากลึกมานานหลายปีและมีประเด็นไม่ลงรอยหลายเรื่องที่ยังไม่ได้รับการสะสาง ตั้งแต่ปัญหาการค้า ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไปจนถึงปัญหาการเมืองระหว่างประเทศต่อกรณีไต้หวัน ฮ่องกง และทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ตาม หวังอี้ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าแรงผลักดันทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่เขาพูดถึงนั้นหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการวิจารณ์จีนเกี่ยวกับความบกพร่องในการรับมือวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุให้ไวรัสลุกลามไปทั่วโลก และทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 3.4 แสนราย
หวังอี้ยังบอกทรัมป์ว่าอย่ามัวเสียเวลากับการกล่าวโจมตีจีน และควรหันกลับไปแก้ปัญหาในประเทศเพื่อช่วยชีวิตประชาชนที่ติดเชื้อ ขณะที่ในสหรัฐฯ เองก็มีนักการเมืองที่เชื่อว่าทรัมป์กำลังเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากความล้มเหลวในการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 ของรัฐบาล
ส่วนประเด็นการผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จุดชนวนประท้วงในฮ่องกงระลอกใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หวังอี้ยืนยันว่าจีนต้องบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวโดยไม่รีรอ โดยให้เหตุผลว่าการประท้วงที่ใช้ความรุนแรงในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้วเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติของจีน
ย้อนอ่าน ปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนที่สะสมมานาน ได้ที่ https://thestandard.co/us-china-coronavirus-tensions
ภาพ: Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum