วันนี้ (18 พฤษภาคม) ที่กระทรวงพลังงาน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวแนวทางการบริหารกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปี 2563 ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับโครงการในกองทุนฯ โดยปีนี้กองทุนอนุรักษ์พลังงานเปิดรับหน่วยงาน 2 ประเภท 1. หน่วยงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา เอกชนที่ไม่แสวงหากำไร 2. คณะกรรมการจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ในโครงการพลังงานชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติของกองทุนยังแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา โดยไม่เน้นโครงการซื้อของแล้วจบ แต่เน้นไปที่การจ้างงาน พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิต
สนธิรัตน์กล่าวว่ากองทุนอนุรักษ์พลังงานเปิดรับโครงการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น โดยเมื่อปิดรับโครงการแล้ว อนุกรรมการกลั่นกรองจะพิจารณาโครงการที่เข้าเกณฑ์ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการกองทุนที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เกณฑ์การพิจารณาปีนี้ยังมี 4 อนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1. อนุกรรมการกองทุนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ดำเนินการเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นโยบายของกองทุน ไม่เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา 2. คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน 3. อนุกรรมการติดตามประเมินผล 4. อนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานกองทุนฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะนำโครงการซึ่งผ่านการอนุมัติเปิดเผยสู่สาธารณะผ่านเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนติดตาม ตรวจสอบได้
สนธิรัตน์กล่าวว่า ปี 2563 นี้มีวงเงินในกองทุน 5,600 ล้านบาทในการพิจารณากองทุนโครงการนี้ แม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังไม่มีอำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการอนุมัติโครงการ เพราะเมื่อผ่านขั้นตอนการกลั่นกรองก็จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนที่มีสมคิดเป็นประธาน ยืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจสั่งการปลัดกระทรวงฯ หรือคณะกรรมการชุดใดๆ ได้ อีกทั้งอนุกรรมการชุดต่างๆ ยังไม่สามารถทำงานตามอำเภอใจได้ เพราะมีเกณฑ์การกำหนดที่ชัดเจน
“ผมยืนยันว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกองทุนนี้ ถ้ามีเบาะแสขอให้ร้องเรียน ผมจะดำเนินการทันที จะไม่เปิดโอกาสให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาของโครงการ ยืนยันว่าต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์ ผมมั่นใจว่ากระบวนการพิจารณาของโครงการตรวจสอบได้ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนได้จริง แนวทางการพิจารณาของโครงการนี้ยังได้ปิดจุดอ่อนของการแทรกแซงไว้หมดแล้ว” สนธิรัตน์กล่าว
สนธิรัตน์กล่าวต่อไปว่ากลางเดือนมิถุนายนจะสามารถอนุมัติโครงการได้ ก่อนจะเริ่มโครงการในเดือนกรกฎาคม โดยหลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการของปีนี้ได้ตัดวงจรการวิ่งเต้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยผลการพิจารณา ติดตามประเมินผล ฯลฯ ซึ่งแตกต่างจากเกณฑ์ของปีที่ผ่านๆ มาอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อเริ่มดำเนินโครงการ ตนจะเดินทางไปตรวจสอบติดตามด้วยตัวเอง เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาก็ตั้งใจจะปฏิรูปการทำงานให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลว่าโครงการนี้จะเป็นปัญหาต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หลังจากเจอการปล่อยข่าวให้ร้าย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum