×

คำต่อคำ ‘ศุภลักษณ์ อัมพุช’ ประธานฯ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตอบจดหมายเปิดผนึกของนายกฯ

14.05.2020
  • LOADING...

ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจดหมายเปิดผนึก หรือหนังสือขอความร่วมมือระดับชาติ เพื่อเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกันทั้งประเทศ ไปยัง 20 เศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศไทย โดยนายกฯ ย้ำว่าเป็นการขอความร่วมมือเพื่อขอความคิดเห็นในการหาทางออกช่วงวิกฤตโควิด-19 

 

THE STANDARD นำการตอบจดหมายของเศรษฐีอันดับที่ 20 ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีทรัพย์สินราว 5.23 หมื่นล้านบาท โดยมีเนื้อหาการช่วยเหลือในช่วงวิกฤตโควิด-19 และ นำเสนอ 10 แผนยุทธศาสตร์เพื่อชาติ ดังนี้ 

 

ดิฉัน (ศุภลักษณ์ อัมพุช) ในนามบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป และในฐานะประชาชนคนไทย ใคร่ขอขอบพระคุณ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทย และหน่วยงานทางราชการทุกท่านที่ได้ดำเนินมาตรการ การป้องกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดียิ่ง ด้วยการตัดสินใจที่กล้าหาญ และการเสียสละ การร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาลที่เปี่ยมด้วยความสามารถ ความทุ่มเท ความเสียสละอย่างสุดกำลัง จนทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นี้ได้ จนได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศทั่วโลก ในฐานะเป็นประเทศที่มีมาตรฐานสาธารณสุขที่ดีเยี่ยมที่สุดของโลก นำมาซึ่งความปลื้มปีติของคนไทยทั้งประเทศ 

 

ดิฉันในนามบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ให้เป็นหนึ่งในตัวแทนภาคเอกชนในการนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่เดือดร้อน และใคร่ขอเสนอแผนการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ให้มีความเข้มแข็งและก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

 

บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ประกาศมาตรการทางการแพทย์ระดับชาติ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 โดยทุกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ปทุกแห่งได้ดำเนินการยกระดับมาตรการ ความปลอดภัย ด้านสาธารณสุขเชิงรุกอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง


อีกทั้งได้แสดงเจตจำนงและความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านโครงการเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และการช่วยสนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆ ตลอดจนโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ดังนี้

 

  • โครงการสนับสนุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เครื่องอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็นในการดำรงชีพและอาหาร รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
  • โครงการเดอะมอลล์ กรุ๊ป-โรงพยาบาลราชวิถี รวมใจเพื่อคนไทยปลอดโควิด-19 เพื่อระดมการบริจาคจากพันธมิตรธุรกิจ ลูกค้า และประชาชนทั่วไป เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
  • โครงการมอบเงินสนับสนุน ผ่าน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แก่ 5 โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันบำราศนราดูร
  • โครงการมอบอาหารกล่องจากครัวน้ำใจ โดยกูร์เมต์ มาร์เก็ตของเดอะมอลล์ทุกสาขา ให้แก่โรงพยาบาลจำนวนรวม 30,000 กล่อง เป็นเวลา 30 วัน
  • โครงการถุงยังชีพชุดกำลังใจ อันประกอบด้วยสินค้าอุปโภค-บริโภคแก่โรงพยาบาล จำนวนรวม 10,000 ชุด
  • โครงการความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจร้านอาหารกว่า 30 ร้าน มอบอาหารกล่องจำนวน 5,000 กล่อง เพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์
  • โครงการเดอะมอลล์ บ้านของคนโคราช เพื่อต่อลมหายใจ ด้วยการระดมการบริจาคเพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจแก่ 3 โรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  • โครงการบริจาคโลหิตเพื่อศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมบรรเทาการขาดแคลนโลหิตสำรอง ผ่านห้องรับบริจาคโลหิตที่เดอะมอลล์ทุกสาขา จำนวนเบื้องต้นรวมกว่า 2,000,000 ซีซี จากผู้มีจิตศรัทธากว่า 5,000 คน ในระยะเวลา 30 วัน
  • โครงการลดค่าครองชีพและมอบถุงยังชีพชุดกำลังใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสนับสนุนโครงการต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์
  • โครงการ ‘พาณิชย์ลดราคาข้าว ช่วยประชาชน’ ร่วมลดราคาข้าวสูงสุด 50%
  • โครงการ ‘พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน’ ร่วมปรับลดราคาสินค้าอุปโภค บริโภคที่มีความจำเป็นในการดำรงชีพใน 6 กลุ่มสินค้า สูงสุด 50% จำนวนกว่า 3,000 รายการ นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการจัดรายการลดราคาสินค้าในราคาพิเศษสุด รวมกว่า 100,000 รายการ ตลอดปี 2563
  • โครงการมอบถุงยังชีพชุดกำลังใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000 ชุด
  • โครงการรับผิดชอบต่อองค์กรและสังคมด้วยมาตรการช่วยเหลือพนักงานในเครือกว่า 20,000 ราย โดยไม่มีนโยบายเลิกจ้าง และช่วยเหลือพนักงานที่มีภาระครอบครัวให้การกู้ยืมเงินโดยไม่มีอัตราดอกเบี้ย และดูแลช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล
  • โครงการช่วยเหลือผู้เช่าและผู้ประกอบการร้านค้าของทุกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขาในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยมีมาตรการไม่เก็บค่าเช่าในช่วงปิดบริการ และมีมาตรการลดค่าเช่าหลังเปิดบริการ เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า และผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 10,000 ราย
  • โครงการช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ภาคการประมง ภาคธุรกิจแปรรูปและ SME ทั่วประเทศ
  • บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความห่วงใยในการระบายสินค้าต่างๆ เพื่อทั้งการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ได้มีบทบาทการเป็นแกนกลางในการผนึกความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจรีเทลทั่วประเทศ ผ่านสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การค้าไทย ในการเปิดพื้นที่เป็นช่องทางการจำหน่ายเพื่อระบายสินค้าภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป ภาควิสาหกิจชุมชน OTOP ตลอดจน SME ตลอดทั้งปี โดยบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้นำร่องด้วยโครงการตลาด เดอะมอลล์รวมใจ The Mall Together Market ทุกสาขา โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมศกนี้เป็นต้นไป

 

อนึ่ง นอกเหนือจากโครงการการสนับสนุนช่วยเหลือต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ดำเนินการเฉกเช่นผู้นำภาคเอกชนต่างๆ ได้ให้การช่วยเหลือสังคมโดยรวม 

 

ดิฉันในนามบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ใคร่ขอเรียนเสนอวิสัยทัศน์และกลยุทธ์แผนการฟื้นฟูและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของประเทศ โดยมีส่วนร่วมเป็นแกนกลางรวมพลังเพื่อบูรณาการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การเดินหน้าประเทศไทยภายหลังวิกฤติโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติที่มีความสำคัญยิ่ง มิได้เป็นเพียงความท้าทายของรัฐบาลเท่านั้น 

 

หากแต่จะเป็นอีกความท้าทายและบทพิสูจน์ในพลังแห่งความร่วมมือของคนไทยทุกคนที่จะร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพราะโลกภายใต้บรรทัดฐานใหม่ New Normal ที่เกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรงต่อมวลมนุษยชาติภายหลังวิกฤตโควิด-19 ประเทศที่ปรับตัวฟื้นฟูได้เร็วกว่า พื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่า มียุทธศาสตร์การฟื้นฟูและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จะสามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้

 

สำหรับประเทศไทยนั้นในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ GDP มีเกณฑ์ที่ตกต่ำลงอย่างมาก ความไม่แน่นอนของทิศทางมาตรการกีดกันทางการค้า การแข็งค่าของค่าเงินบาท ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกมีข้อจำกัดจากการขยายตัว ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและผลกระทบจาก World Disruption จากเทคโนโลยี 

 

และที่สำคัญยิ่ง การซ้ำเติมของการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางด้านมนุษยชาติ (Humanity) และผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ (Global Economic Recession) ประเทศต่างๆ ทุกประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกา และทุกภูมิภาคทั่วโลกจะต้องดำเนินการเยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม

 

ปัญหาที่ตามมาจะทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง กำลังการใช้จ่าย Spending Power ของทุกประเทศจะลดลง เงินทุนและกองทุนสำรองของแต่ละประเทศจะลดลง คนจะตกงานมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้

 

สิ่งที่เดอะมอลล์ กรุ๊ปใคร่ขอนำเสนอคงไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงิน แต่เป็นวิสัยทัศน์และแนวกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ที่ทั้งทางภาคเอกชนทุกภาคส่วนและภาครัฐบาลทุกหน่วยงานจะต้องมุ่งมั่นและมีเป้าหมายร่วมกัน ต้องฟันฝ่าอุปสรรคและนำพาประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้

 

ประเทศไทยเราได้ชัยชนะจากการระงับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้จนเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของรัฐบาล และความร่วมมือร่วมใจสนับสนุนจากประชาชนคนไทยทุกคนด้วยความกล้าหาญ เสียสละ ความเก่งกล้าของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล จนประสบความสำเร็จและนำมาซึ่งความปลื้มปีติของคนไทยทั้งประเทศ

 

ด้วยยุทธศาสตร์ของการสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยการสร้างงานสร้างอาชีพ การสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศไทยภายใต้บรรทัดฐานใหม่ New Normal สำหรับคนทุกภาคส่วน ตั้งแต่แรงงานขั้นพื้นฐาน เกษตรกร SME Entrepreneur White Collar เจ้าของธุรกิจ จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ภายใต้กลยุทธ์ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องให้ความสำคัญ คือ 3 หัวข้อหลัก

 

  1. Globalization ทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของ Southeast Asia
  2. Digitalization การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สำหรับ New Normal ทั้งในแง่การทำธุรกิจและการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่
  3. Tourism เป็น Spearhead หัวหอกหลักที่จะนำประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด และมีผลต่อเนื่อง Value Chain ไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย และเป็นส่วนที่ประเทศไทยสามารถใช้เป็นจุดแข็ง 

 

ในฐานะที่ประเทศไทยเป็น Tourist Destination of the World โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่เป็น World Number 1 Tourist Destination ติดต่อกันถึง 4 ปี อีกทั้งภูเก็ตและพัทยา ติดอันดับ Top 10 Tourist Destination in Asia เดอะมอลล์กรุ๊ป ใคร่ขอเสนอ 10 แผนแม่บท 10 แผนยุทธศาสตร์ที่จะขอให้ทั้งทางภาครัฐบาลและภาค เอกชนร่วมมือกัน มี Commitment ร่วมกัน เพื่อยังผลให้โครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จยิ่ง

  1. Thailand as a World Class Shopping Paradise ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งระดับโลก
  2. Thailand as a World Food Destination ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมอาหารของโลก
  3. Thailand as a Hub of World Class Entertainment and Attractions in Sea ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
  4. Thailand as a Hub of Mice Market in Sea ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมนาและจัดแสดงสินค้าระดับโลกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
  5. Thailand as a Cultural and Art Center of Asia ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย
  6. Thailand as a World Class Center of Festival, Leisure & Fun ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดเทศกาลแห่งความสุขและสนุกสนานระดับโลก
  7. The Gulf of Thailand and the Andaman Sea to Become the Riviera of the East and Cruise Line Playground อ่าวไทยและคาบสมุทรอันดามัน เสมือนเป็นริเวียร่าแห่งโลกตะวันออกและเส้นทางเดินเรือสำราญที่สำคัญของเอเชีย
  8. Thailand as a Medical Hub for Health, Wellness & Spa Resort in Asia ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ สุขภาพ ความงาม และสปา ในภูมิภาคเอเชีย
  9. Thailand as the Entrepreneur, SME & Startup Hub of Sea for O2O Seamless Experience ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับผู้ประกอบการ SME และสตาร์ทอัพ
  10. Thailand as a Center of Ecotourism and Environmental Sustainability ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

ท้ายนี้ดิฉันในนามบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างจริงใจและจริงจัง ภายใต้กลยุทธ์และแผนยุทธศาสตร์ทั้ง 10 ข้อนี้ จะทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งการสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย สร้างงาน สร้างอาชีพเพิ่มให้กับประชาชนหลายล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้และทำรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ประเทศกว่า 100,000 ล้านบาท ยังผลให้ประเทศไทยฟื้นฟูและยืนหยัดด้วยความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

 

พร้อมกันนี้ดิฉันใคร่ขอส่งพลังแห่งความปรารถนาดีให้กับคนไทยทั้งประเทศ

The Power of Love พลังแห่งความรัก และความห่วงใยซึ่งกันและกัน

The Power of Faith พลังแห่งความศรัทธาและเชื่อมั่นต่อประเทศไทย

The Power of Togetherness พลังแห่งความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ พลังแห่งความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่ง ควรค่าแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม
https://thestandard.co/prayut-open-letter-20-thai-millionaires-no-money-no-benefits/

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

 


ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X