บนสังเวียนกรง 8 เหลี่ยม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม การต่อสู้ที่เร่าร้อนของเหล่ายอดนักกีฬาต่อสู้ หัวใจที่เด็ดเดี่ยว เลือดและบาดแผล เสียงคำรามของผู้ชนะ การยอมรับความปราชัยของผู้แพ้ แต่นอกสนามนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีคนดูแม้แต่คนเดียว

ในฐานะของเกมกีฬาอาชีพที่อาศัยรายได้จากการจำหน่ายค่าตั๋วเข้าชมเป็นหลัก ถึงจะมีเงินจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดมาอีกทางก็ตาม มันไม่ใช่ภาพที่ดีเลยสำหรับคนที่ลงทุนตั้งมากมายเพื่อจัดการแข่งขันขึ้น

แล้วทำไม ดานา ไวท์ ประธาน UFC จึงคิดว่าศึก UFC ครั้งที่ 249 เป็นรายการที่ประสบความสำเร็จ?

ย้อนกลับไปในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาที่เมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ศึก UFC 249 ถูกจัดขึ้น (จนได้) หลังจากที่ความพยายามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของไวท์ซึ่งไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคทั้งปวง และยืนกรานหนักแน่นที่จะต้องจัดการแข่งขันให้ได้

แม้ว่าตัวเรียกแขกอันดับ 1 อย่าง นาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ จะไม่สามารถมาร่วมแข่งขันได้ เพราะไม่สามารถเดินทางได้ จนต้องมีการใช้ ‘มวยแทน’ อย่าง จัสติน เกธจี ขึ้นชกกับ โทนี เฟอร์กูสัน เพื่อชิงแชมป์เฉพาะกาลในรุ่นไลท์เวทแทน 

และแม้ว่าจะมีนักชกที่ถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 อย่าง โรนัลโด ซูซา (ซึ่งพอรู้ตัวก่อนแล้วด้วยซ้ำ) จนไฟต์กับ อูไรยา ฮอลล์ ต้องยกเลิก ก็ไม่สามารถหยุด UFC 249 ครั้งนี้ได้

“รายได้ค่าผ่านประตูเป็นศูนย์ ผู้ชมก็เป็นศูนย์” ไวท์กล่าวถึงรายได้และจำนวนผู้ชมในการแถลงข่าวหลังจบศึกครั้งนี้

“แต่นั่นคือก้าวแรก”

ในความเห็นของไวท์ ถึงแม้จะสูญเสียรายได้มหาศาลที่พึงจะได้จากการจัดการชกขึ้น และมันคงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน จนกว่าที่เราจะผลิตวัคซีนหรือค้นพบวิธีที่จะสามารถทำให้แฟนๆ กลับเข้าสู่สนามกีฬาได้โดยไม่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือแพร่กระจายโรคโควิด-19 แต่อย่างน้อยที่สุดมันคือการที่เขาได้ ‘พิสูจน์’ ให้ทุกคนได้เห็น

สิ่งที่ไวท์ต้องการพิสูจน์คือ หากปฏิบัติตามไกด์ไลน์อย่างเคร่งครัดแล้ว การแข่งขันกีฬาระดับอาชีพสามารถจัดขึ้นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในความหมายของเขาไม่ใช่เฉพาะสำหรับ UFC แต่หมายถึงการแข่งขันกีฬาทุกอย่างบนโลก

เพราะถ้า UFC ซึ่งเป็นกีฬาต่อสู้ที่มีการปะทะกันทุกวินาที มีเลือด มีเหงื่อ มีการหายใจที่รุนแรง มีน้ำลาย ยังสามารถแข่งขันได้ กีฬาอื่นก็ย่อมแข่งขันได้เช่นกัน

“เราสามารถแบ่งปันสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากที่นี่ในการจัดอีเวนต์ขึ้น 3 ครั้ง กับลีกกีฬาอื่นๆ ที่ติดต่อมาถึงเราและสอบถามข้อมูล”

จุดที่น่าสนใจคือ กรณีของ โรนัลโด ซูซา กับพี่เลี้ยงอีก 2 คน ที่ถูกตรวจพบโควิด-19 ในช่วงก่อนชั่งน้ำหนักนั้น เป็นนักสู้เพียงรายเดียวจาก 24 ราย ที่ถูกตรวจพบการติดเชื้อ ซึ่งแทนที่ไวท์จะสั่งให้ยกเลิกการแข่งขันทั้งหมดเหมือนกรณีของบาสเกตบอล NBA ที่สั่งยกเลิกเกมทั้งหมดทันทีที่พบว่า รูดี โกแบร์ต แห่งทีมยูทาห์ แจซซ์ ติดเชื้อ (และนำไปสู่การหยุดการแข่งขันกีฬาทั่วโลกในเวลาต่อมา) เขากลับสั่งให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไป

เพราะในมุมมองของไวท์ เมื่อมีการสั่งตรวจคน 300 คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา, เจ้าหน้าที่, กรรมการ, พี่เลี้ยง, ทีมงานถ่ายทอดสด และอื่นๆ การพบคนที่ติดเชื้อบ้างนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

สิ่งสำคัญคือ การต้องออกแบบระบบให้ดี และสำหรับ UFC 249 ที่ผ่านมาทุกอย่างมันออกมาเรียบร้อยดี

ถึงจะมีประเด็นที่ถูกโจมตีอยู่บ้าง เช่น การที่ไวท์ไม่สวมหน้ากากในช่วงของการชั่งน้ำหนัก จับมือกับนักสู้ทุกคน กอดนักสู้อีกหลายคน ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับมาตรการรักษาระยะห่างทางกายภาพอย่างชัดเจน แต่เชื่อว่า ทีมงาน UFC พร้อมจะเรียนรู้และปรับตัว เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นมากยิ่งขึ้น

หลังจากนี้ UFC จะมีอีเวนต์อีก 2 ครั้งในสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าทุกอย่างจะยิ่งดีขึ้นตามลำดับ

อย่างน้อยไฟของนักสู้เหล่านี้ก็ได้เป็นไม้ขีดไฟที่จุดประกายให้แก่โลกกีฬาที่หนาวเหน็บได้อุ่นขึ้นอีกครั้ง

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://www.nytimes.com/2020/05/10/sports/UFC-249-dana-white-joe-rogan.html
• https://www.ufc.com/event/ufc-249

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum