“เราก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน” เสียงสะท้อนจากนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ไม่มั่นใจในการคืนสนามอีกครั้ง

“We are people too” ข้อความสั้นๆ ที่ถูกโพสต์บนทวิตเตอร์ส่วนตัวของ ทอดด์ คานต์เวลล์ กองกลางดาวรุ่งอนาคตไกลของทีม ‘นกขมิ้นเหลืองอ่อน’ นอริช ซิตี้ กลายเป็นข้อความที่ทำให้คนอังกฤษได้ฉุกคิดถึงเรื่องการกลับมาแข่งขันฟุตบอลอีกครั้งภายใต้ Project Restart

เพราะในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังพูดถึงเรื่องของมูลค่าความเสียหายหากไม่สามารถกลับมาแข่งขันได้ครบจบฤดูกาล ถกเถียงกันในเรื่องของการแข่งต่อที่สนามเป็นกลาง โต้แย้งกันในเรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบที่เกิดขึ้น ส่วนที่ถูกพูดถึงน้อยที่สุดกลับเป็นเรื่องของคนที่ต้องลงไปทำหน้าที่ตัวจริงในสนามอย่างนักฟุตบอล

ทั้งๆ ที่เมื่อมีการประชุมกันครั้งใดก็จะมีการยืนยันเสมอว่า ความปลอดภัยในชีวิตของนักฟุตบอลรวมถึงสตาฟฟ์ทุกคนคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งที่ปรากฏนั้นดูเหมือนจะเป็นไปในทางตรงข้าม

เสียงสะท้อนจากความรู้สึกของนักฟุตบอลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกพักการแข่งไปตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมามีน้อยมาก และเพิ่งจะเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นจากการออกมาให้สัมภาษณ์ของ เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าดาวดังทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ไม่ใช่การให้สัมภาษณ์กับสื่อในอังกฤษด้วย แต่เป็นการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในบ้านเกิดที่อาร์เจนตินา

อเกวโรบอกกับทุกคนว่า “นักฟุตบอลก็มีครอบครัว มีลูก”

ก่อนที่คานต์เวลล์จะย้ำให้ทุกคนจำได้อีกทีว่า นักฟุตบอลเองก็เป็น ‘คนธรรมดา’ เหมือนกับทุกคน

นักฟุตบอลก็คือคนทำงาน เหมือนข้าราชการ เหมือนมนุษย์เงินเดือน เหมือนพ่อค้าแม่ค้า พวกเขาก็รักตัวและกลัวตายเป็นเหมือนกัน

และข่าวการติดเชื้อรายที่ 3 ของนักเตะไบรท์ตัน รวมถึงข่าวจากต่างประเทศที่มีการพบผู้ติดเชื้อเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่เยอรมนี, อิตาลี หรือสเปน ไม่ได้ช่วยให้ความกังวลใจลดลงไปแม้แต่น้อย

เรื่องที่เป็นประเด็นหลักคือ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้รับการให้ข้อมูลหรือคำแนะนำที่ชัดเจนมากพอที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน หากพวกเขาจะต้องกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้ง จากการซ้อมเดี่ยวไปถึงซ้อมทีม ก่อนจะกลับมาเริ่มแข่งขันจริงๆ

อะไรคือหลักประกันและความมั่นใจ

We are just people too 🤷🏼‍♂️ https://t.co/XMKH9FYhsJ

— Todd Cantwell (@ToddCantwell_10) May 10, 2020

บรรยาย: ทอดด์ คานต์เวลล์ รีทวีตข่าวการติดเชื้อของนักฟุตบอลไบรท์ตัน พร้อมข้อความชวนสะท้อนใจ

ในขณะที่สโมสรพรีเมียร์ลีกทั้ง 20 แห่ง จะประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการ แนวทางปฏิบัติต่างๆ และข้อตกลง เพื่อที่จะให้ Project Restart เดินหน้าต่อไปได้ ทางด้านกัปตันของสโมสรทุกแห่ง รวมถึงตัวแทนของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) และตัวแทนของสหภาพนักฟุตบอลเอง จะศึกษาเอกสารแนวทางการปฏิบัติที่มีความยาวทั้งหมด 45 หน้า ที่ได้รับมา ก่อนจะนำสิ่งที่มีข้อสงสัยไปถามในการประชุมกันในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (14 พฤษภาคม) ร่วมกับทางพรีเมียร์ลีกและสมาคมผู้จัดการทีม (ที่ก็เสี่ยงเหมือนกัน)

คำถามที่ยังค้างคาในใจและต้องการคำตอบ เช่น

– โควิด-19 สามารถแพร่เชื้อผ่านน้ำลาย, เหงื่อ และเลือด ได้หรือไม่

– นักฟุตบอลที่เป็นชนกลุ่มน้อยมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่าหรือไม่ หลังมีตัวเลขสถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) แสดงให้เห็นว่า ชายและหญิงผิวสีมีโอกาสในการเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า

– นักฟุตบอลต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการรัด (ข้อเท้า, หัวเข่า) และการนวด ว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร

ไปจนถึงคำถามที่พวกเขาหลายคนรู้สึกสงสัยว่า นักฟุตบอลกำลังถูกใช้เพื่อเป็น ‘หนูทดลอง’ ของรัฐบาลอังกฤษในการที่จะดูว่าธุรกิจต่างๆ จะกลับมาดำเนินได้ตามปกติอีกครั้งหรือไม่

และคำถามอีกข้อที่ยากจะหาคำตอบได้

ต่อให้แข่งฟุตบอลในฤดูกาลนี้จบได้จริง แล้วฤดูกาลหน้าจะทำอย่างไร ในเมื่อยังไม่น่าจะมีการผลิตวัคซีนได้ทัน

เวลานี้ยังไม่มีใครรู้ว่า ทุกคำถามจะได้รับการตอบไหม แต่อย่างน้อยที่สุด หากฟุตบอลจะกลับมาสู่โลกใบนี้อีกครั้งจริงๆ ทุกองค์ประกอบควรจะได้รับการสนใจและใส่ใจอย่างเท่าเทียมกัน

โดยเฉพาะหน่วยสุดท้ายที่ต้องลงไปทำหน้าที่ ‘หน่วยกล้าตาย’ จริงๆ ในสนามอย่างนักฟุตบอล

พวกเขาไม่ได้กลัวการลงไปตายในสนาม แต่กลัวจะทำให้คนที่พวกเขารักลำบากไปด้วย ไม่ต่างอะไรจากคนหนุ่มสาวทุกคนในยุคโควิด-19

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

FYI

พรีเมียร์ลีกใช้งบประมาณ 4 ล้านปอนด์ ในการจัดซื้อชุดทดสอบจากบริษัท Prenetics โดยจะมีการทดสอบการติดเชื้อของนักฟุตบอลสัปดาห์ละ 2 ครั้งต่อคน
คริสเตียน เพิร์สโลว ประธานบริหารแอสตัน วิลลา เสนอให้มีการตั้งกฎโควิด (Covid Rule) โดยเฉพาะ เช่น หากนักเตะที่เก่งที่สุดของทีมติดเชื้อ ก็ให้ยกเลิกการแข่งทันที แต่คาดว่าพรีเมียร์ลีกจะมีแผนที่ชัดเจน เช่น หากมีผู้เล่นติดเชื้อหนึ่งคน ก็จะต้องกักตัวแยกจากครอบครัว 14 วัน ขณะที่สโมสรจะได้รับอนุญาตให้เพิ่มผู้เล่นเข้ามาในทีมจนครบ 25 คน