วันนี้ (8 พฤษภาคม) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ ส.ส. ฝ่ายค้านรวม 210 รายชื่อต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประกาศเชิญชวน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว. มาร่วมลงชื่อขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาโควิด-19 และการเสนอให้ใช้ พ.ร.ก. กู้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 123 กำหนดให้การเปิดประชุมสมัยวิสามัญสามารถทำได้ 2 ทางคือ 1. ให้คณะรัฐมนตรีนำความขึ้นกราบบังคมทูล หรือ 2. ส.ส. และ ส.ว. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 เข้าชื่อกันเพื่อขอเปิดประชุมสภาวิสามัญ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้ไปแสดงความจำนงต่อรัฐบาลเพื่อขอให้รัฐบาลใช้อำนาจฝ่ายบริหารเปิดประชุมวิสามัญ แต่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นว่าการเปิดประชุมสมัยวิสามัญยังไม่มีความจำเป็น ดังนั้นฝ่ายค้านที่มีรายชื่ออยู่ในมือ 210 คนจึงต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการรัฐสภา เพื่อขอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวกลางในการให้ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล หรือ ส.ว. ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปิดประชุมสมัยวิสามัญมาลงชื่อร่วมกับฝ่ายค้าน
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ทั้ง 3 ฉบับตามที่คณะรัฐมนตรีประกาศใช้ รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่คณะรัฐมนตรีเตรียมจะเสนอมายังสภาผู้แทนราษฎร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการพิจารณาเพื่อนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในการเร่งด่วน
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญแล้ว และมั่นใจว่า ส.ส. สามารถเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมได้โดยไม่จำเป็นจะต้องมีการตรวจโรคทุกคน ตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น และมาตรการในการควบคุมโรคของ ศบค. นั้นจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการประชุมสภา เพราะยึดถือรัฐธรรมนูญและระเบียบข้อบังคับการประชุมเป็นหลัก อีกทั้งสภาก็ได้มีการจัดที่นั่งให้ ส.ส. ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว รวมทั้งจะมีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด จึงคิดว่าจากการดำเนินการของสภาทำให้สามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์