เตะน้อยกว่าครึ่งละ 45 นาทีได้ไหม? ข้อเรียกร้องใหม่จาก PFA และแนวทางปกป้องนักฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

การหาทางออกร่วมกันเพื่อให้พรีเมียร์ลีกกลับมาแข่งขันอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย เรียกว่าหากเปรียบเป็นการวิ่งข้ามรั้วแล้ว พวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นวิ่งผ่านมาได้ไม่กี่รั้ว โดยที่หนึ่งในรั้วที่ใหญ่ที่สุดที่ยังวิ่งข้ามไม่ได้คือ นักฟุตบอลที่จะเป็นคนตัดสินว่าสุดท้ายแล้วฟุตบอลจะกลับมาเตะได้จริงๆ ไหม

เพราะถ้านักฟุตบอลรวมตัวกันปฏิเสธที่จะลงเล่น แผนการทุกอย่างที่เตรียมมาก็จบ พับเก็บเข้าโต๊ะได้เลย

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ประเด็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขากลับเป็นสิ่งท้ายๆ ที่มีการพูดถึง หลังจากที่มีการเปิดประเด็นเรื่องของกำหนดการกลับมาแข่งขัน แนวทางการปฏิบัติต่างๆ ไปจนถึงการไม่ลงรอยกันในเรื่องของผลประโยชน์ในกรณีที่ต้องแข่งขันในสนามเป็นกลาง

ครั้งเดียวที่นักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตกเป็นประเด็นข่าวคือ เรื่องเรียกร้องให้มีการลดค่าเหนื่อยลง เพื่อช่วยประคับประคองให้สโมสรอยู่รอด ซึ่งบทสรุปที่ได้คือ การที่พวกเขาปฏิเสธจะทำตามและตั้งกองทุน #PlayersTogether เพื่อช่วยเหลือสังคมแทน ส่วนเรื่องของการลดค่าเหนื่อยนั้นเป็นสิ่งที่แต่ละสโมสรต้องไปตกลงกันเอง

เมื่อสถานการณ์เดินทางมาถึงจุดที่จะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะสามารถกลับมาแข่งขันต่อหรือไม่ เมื่อไร เสียงของนักฟุตบอลจึงเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะเสียงจาก กอร์ดอน เทย์เลอร์ ในฐานะประธานสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ในฐานะตัวแทนของนักฟุตบอลทุกคน

“พวกเขาไม่ได้โง่” เทย์เลอร์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ BBC 4 “พวกเขาต้องพอใจจริงๆ ว่ามันปลอดภัยที่จะแข่งได้”

เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของนักเตะ เทย์เลอร์มาพร้อมกับข้อเรียกร้องใหม่ที่ไม่เคยมีใครเสนอแนวทางแบบนี้มาก่อน

ข้อเสนอดังกล่าวคือ การที่จะให้เกมฟุตบอลเล่นในระยะเวลาที่ลดลงจากปกติ แทนที่จะเล่นกันเต็ม 45 นาที ก็ขอให้เล่นน้อยลง โดยนอกจากนี้ยังมีเรื่องของการให้มีการเปลี่ยนตัวสำรองได้มากกว่าเดิม

“เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าข้อเสนอของเรา แนวคิดของเรา ได้มีการเสนอไปแล้วว่า มีความเป็นไปได้ไหมที่จะมีการเปลี่ยนตัวสำรองได้มากขึ้น และให้มีการเล่นน้อยกว่าครึ่งละ 45 นาที รวมถึงเรื่องของการใช้สนามเป็นกลางด้วย

“ในอุดมคติแล้ว ทุกคนอยากจะรักษาหัวใจของการแข่งขันเอาไว้ และแน่นอนว่ามันคือการต้องเล่นในแบบเหย้าและเยือน และมีทีมชุดเดียวกับในช่วงเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะถูกพัก”

เทย์เลอร์ย้ำว่า ในความเป็นนักกีฬาอาชีพแล้วนักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรวมถึงฟุตบอลลีก (EFL) สามารถจะกลับมาจากช่วงเวลาที่เลวร้ายได้เสมอ แต่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องของความปลอดภัย

“เราจะจบฤดูกาลได้โดยที่พวกเขาปลอดภัยจริงๆ กันได้ไหม?”

เซร์คิโอ อเกวโร เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่แสดงความกังวลใจออกมาดังที่สุดเกี่ยวกับการกลับมาแข่งพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

เพราะนักเตะก็มีแก้วตาดวงใจ

ความเห็นของเทย์เลอร์เกิดขึ้นหลังจากที่มีนักฟุตบอลหลายคนออกมาส่งเสียงสะท้อนถึงความรู้สึกลึกๆ ในใจของพวกเขาที่ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ในเวลานี้

หนึ่งในนักฟุตบอลที่ส่งเสียงออกมาดังที่สุดคือ เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยอมรับตรงๆ ว่า “กลัว”

ความกลัวนั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขากลัวจะป่วย แต่พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว โดยเฉพาะลูกน้อย

“นักฟุตบอลส่วนใหญ่มีความกลัว เพราะพวกเขามีครอบครัว พวกเขามีลูก บางคนลูกยังเล็กอยู่” อเกวโรให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ El Chiringuito ในอาร์เจนตินา บ้านเกิด

“เมื่อเรากลับมาแข่งขัน ในจินตนาการของผมคือ มันจะต้องตึงเครียดมาก เราต้องระมัดระวังมาก และในเวลานี้ถ้ามีใครสักคนป่วยขึ้นมา ก็จะมีคนคิดว่า ‘แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไป’ สิ่งนี้ทำให้ผมกลัว”

ในความเห็นของอเกวโร ทางเดียวที่จะทำให้พวกเขามั่นใจได้อีกครั้งคือ ต้องมีวัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 ก่อน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้

ที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีกถูกสอบถามจากสโมสรต่างๆ เกี่ยวกับความชัดเจนในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติ, การทดสอบ และสวัสดิภาพของผู้เล่น

แต่ไม่มีคำตอบใดจะทำให้พวกเขาคลายกังวลใจได้เลย และนั่นกำลังนำไปสู่การต่อต้านอย่างชัดเจนจากนักฟุตบอลที่สโมสรหลายแห่งเองยกให้เป็นฝ่ายตัดสินใจเองว่า พวกเขายินดีที่จะกลับมาแข่งขันอีกหรือไม่

ล่าสุด มีรายงานว่า หลายสโมสรชะลอการกลับมาซ้อมออกไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และส่งผลต่อแผนในการจะกลับมาของพรีเมียร์ลีกที่อาจจะล่าช้าไปอีก

พรีเมียร์ลีกยังไม่สามารถกำหนดการกลับมาซ้อมได้ในเวลานี้ โดยทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการประชุมในวันจันทร์หน้า ที่มีสิ่งที่ต้องตกลงร่วมกันให้ได้ในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นเรื่องสุขภาพของผู้เล่นด้วย

การประชุมนัดสำคัญที่จะเกิดขึ้น

ความกังวลใจนั้นไม่ได้อยู่แค่ในอกของนักฟุตบอล เพราะแม้แต่แพทย์ประจำทีมเองก็มีความกังวลและสงสัยในแนวทางที่จะสามารถทำให้พรีเมียร์ลีกกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง

เรื่องนี้นำไปสู่การรวมตัวกันของแพทย์ประจำทีมที่เชื่อว่า มีอย่างน้อย 4 คน ได้รวบรวมคำถามมากมายส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพรีเมียร์ลีกและรัฐบาล เพื่อต้องการคำตอบ

หนึ่งในคำถามที่เรียบง่ายแต่ตอบยากคือ “ในฐานะแพทย์ เราจะ ‘รับรอง’ แนวทางปฏิบัติที่ยังมีความเสี่ยงที่จะส่งผลถึงชีวิตได้อย่างไร”

จดหมายนี้ถึงมือของ มาร์ก จิลเล็ตต์ ผู้อำนวยการทางการแพทย์ของพรีเมียร์ลีก และ ริชาร์ด การ์ลิก ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอล ซึ่งยังมีเรื่องคำถามของการประกันความเสี่ยง และความเสี่ยงที่สูงขึ้นของกลุ่มนักฟุตบอลชาติพันธุ์ต่างๆ รวมถึงนักฟุตบอลเอเชียด้วย นอกจากนี้ในหมู่สโมสรด้วยกันเอง ยังมีคำถามเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบางสโมสรที่ไม่ได้สนใจจะทำตามไกด์ไลน์ที่มีเลย

ไปจนถึงเรื่องของความพร้อมในกรณีฉุกเฉินว่า หากมีเหตุไม่คาดฝันในสนามฝึกซ้อมแล้ว จะมีหน่วยฉุกเฉินที่เข้ามาให้การช่วยเหลือที่สนามซ้อมได้ทันท่วงทีหรือไม่ในยามนี้

อย่างไรก็ดี เพื่อคลายความกังวลใจทั้งหมดคาดว่า ในการประชุมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า หนึ่งใน Session ของการประชุมคือ การที่จะมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางการแพทย์มาพูดคุยโดยตรงกับผู้เล่นและผู้จัดการทีม

ผู้เชี่ยวชาญพิเศษนี้มาจากคณะทำงานของรัฐบาล ที่จะตอบทุกคำถามซึ่งรวมถึงการตอบคำถามของเหล่าแพทย์ประจำทีมที่จะมีส่วนร่วมกับการหารือครั้งนี้ด้วย

บนความหวังว่า ทุกคำถามจะได้รับคำตอบ และทุกคนจะได้จับมือเดินหน้าไปด้วยกันอีกครั้ง

มาตรการทางการแพทย์ในการกลับมาซ้อมของสโมสรพรีเมียร์ลีก

– ทุกสโมสรจะต้องมีการตั้งจุดทดสอบแบบ Drive-In สำหรับผู้เล่นและสตาฟฟ์ ใกล้กับสนามซ้อม

– ผู้เล่นและสตาฟฟ์ทุกคนจะต้องตรวจหาเชื้อ 48 ชั่วโมงก่อนจะกลับมาซ้อม และจะได้รับอนุญาตให้ซ้อมได้เมื่อผลการตรวจเป็นลบและไม่มีอาการป่วย หากผลตรวจเป็นบวกหรือมีอาการป่วยจะต้องกักตัว 14 วัน

– นักฟุตบอลทุกคนจะต้องเข้ารับการประเมินความเสี่ยงในเรื่องระบบหายใจและการตรวจหัวใจ

– นักฟุตบอลจะต้องจอดรถห่างจากคันอื่น 3 ช่อง และมาถึงสนามซ้อมในชุดซ้อมพร้อมฝึกทันที

– ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนได้รับอนุญาตให้เข้าฝึกซ้อมแบบกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 5 คน ก่อนการซ้อม 90 นาที

– ห้ามถ่มน้ำลายลงสนาม และนักฟุตบอลจะต้องรักษาระยะห่างทางกายภาพระหว่างกัน

– ห้ามใช้สาธารณูปโภคของสนามซ้อม อาทิ โรงอาหาร แต่จะมีการจัดเตรียมอาหารกลางวันใส่กล่องให้ทานแทน

– เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะต้องสวมชุด PPE เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของผู้เล่น

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: