สีจิ้นผิง โชว์วิสัยทัศน์พาจีนผงาดเป็นมหาอำนาจของโลกในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง (Xi Jinping) ผู้นำรุ่นที่ 5 ของจีน ใช้เวลากล่าวถ้อยแถลงถึงความสำเร็จและแนวทางดำเนินนโยบายในอนาคตของจีนกว่า 3 ชั่วโมง 23 นาที พร้อมประกาศว่า ต่อจากนี้ไป นี่คือยุคสมัยใหม่ของการเมืองจีนอย่างแท้จริง

โดยการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกจัดขึ้นท่ามกลางตัวแทนสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศกว่า 2,287 คน โดยนายสีจิ้นผิงที่กำลังจะหมดวาระลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีจีนต่ออีก 1 สมัย โดยจะไปสิ้นสุดสมัยที่ 2 ในช่วงต้นปี 2022

แนวทางของผู้นำจีนรุ่นที่ 5

สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ขึ้นกล่าวเปิดการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ณ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนในวันนี้ โดยกล่าวว่าพรรคคอมมิวนิสต์ ประชาชน กองทัพ และประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งรายงานความสำเร็จของประเทศต่อที่ประชุม และวางเป้าหมายที่จะนำพาประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกนี้เดินทางไปให้ถึงฝั่งฝันตามแนวทางพัฒนาให้ทันสมัยแบบสังคมนิยม (Socialist Modernization) ภายในปี 2050

คอร์รัปชัน ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญมาโดยตลอด ผู้นำรุ่นที่ 5 ของจีนประกาศว่า “รัฐบาลพร้อมเดินหน้าขจัดเชื้อไวรัสร้ายที่มุ่งทำลายประเทศชาติต่อไป” ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่นายสีจิ้นผิงลงนามในแคมเปญต่อต้านภัยคอร์รัปชันอย่างจริงจังในปี 2012 โดยมีผู้ทุจริตคอร์รัปชันที่ได้รับโทษแล้วมากกว่า 1.3 ล้านคน และเขาจะยังคงเดินหน้าต่อสู้กับปัญหานี้ในอีก 5 ปีข้างหน้านับจากนี้

ทางด้าน นโยบายต่างประเทศ นายสีจิ้นผิงเน้นย้ำว่า “จีนจะไม่ยอมถูกเอารัดเอาเปรียบ จีนจะต่อต้านการแทรกแซงการเมืองภายในจีนจากต่างประเทศ รวมถึงต่อต้านประเทศต่างๆ ที่จะทำให้จีนอ่อนแอลง” ทั้งนี้เขายังได้ประกาศเตือนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เคลื่อนไหวอยู่ในมณฑลซินเจียง ทิเบต ฮ่องกง รวมถึงเน้นย้ำว่า “ไต้หวันคือดินแดนส่วนหนึ่งของจีน” “พวกเราจะไม่อดทนให้ใครก็ตามใช้อาวุธใดๆ แบ่งเเยกแผ่นดินจีนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว” “และจงจำไว้เสมอว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ” เพื่อป้องกันความไม่สงบภายในประเทศที่อาจปะทุขึ้นจากกลุ่มหัวรุนแรง

นอกจากนี้จีนจะดำเนินมาตรการและนโยบายที่แข็งกร้าวขึ้นต่อประเทศที่อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อจีน โดยจีนยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของตนในฐานะนักลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยเฉพาะเส้นทางการค้าสายไหม (One Belt One Road) ที่นายสีจิ้นผิงริเริ่มผลักดันในปี 2013

มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกกล่าวถึงในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ โดยนายสีจิ้นผิงยืนยันว่าจะเร่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนภายในประเทศ

“มีความพยายามจะแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมในเบื้องต้น และมีการตั้งเป้าหมายว่าเราจะสร้างให้ประเทศนี้สวยงาม” “เราจะสนับสนุนภาพลักษณ์ใหม่ที่สวยงามของจีนด้วยสภาพแวดล้อมที่สะอาด มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีรัฐบาลที่รับฟังปัญหา”

โดยจะเร่งแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและปัญหาหมอกควันที่อยู่สูงกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดถึง 20 เท่า ในฐานะประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก รัฐบาลจีนยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติตามความตกลงปารีสต่อไป แม้ว่าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาจะถอนตัวจากการเป็นภาคีดังกล่าวแล้วก็ตาม

อีกหนึ่งเป้าหมายของจีนคือการเปลี่ยนแปลงจีนให้กลายเป็น ประเทศแห่งนวัตกรรม เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอวกาศ โลกไซเบอร์ โดยรัฐบาลจะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดภายในประเทศของบรรดานักลงทุนชาวต่างชาติเพื่อสร้างเสถียรภาพในการเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจของพญามังกรจีนบนเวทีโลก

โดยการประชุมใหญ่ในครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอีกร่วมสัปดาห์ โดยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะขึ้นแสดงตนบนเวทีและอวดโฉมหน้าต่อสายตาผู้คนทั่วโลกในวันที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ประเทศจีนภายใต้การบริหารงานของผู้นำรุ่นที่ 5 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ 5 ปีต่อจากนี้รู้กัน

Photo: STR, Nicolas ASFOURI, WANG Zhao/AFP

อ้างอิง: