อีกหนึ่งข่าวเศร้าที่ทำให้วงการวรรณกรรมต้องหลั่งน้ำตา เมื่อ ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ เจ้าของนามปากกา ‘พนมเทียน’ นักเขียนในตำนานผู้สร้างสรรค์ผลงานสุดคลาสสิกอย่าง เพชรพระอุมา จากโลกนี้ไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลรามคำแหง
พนมเทียนเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2474 เริ่มสะสมนิสัยรักการอ่านตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยเฉพาะวรรณคดีไทยอย่าง รามเกียรติ์, พระอภัยมณี ฯลฯ ประกอบกับนิสัยรักสนุก ชอบความท้าทาย หลงใหลเสน่ห์ของธรรมชาติและป่าเขา จนเขาเริ่มเขียนนวนิยายเล่มแรกของตัวเองที่ชื่อ ‘เห่าดง’ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
และเริ่มต้นเขียนนวนิยายเรื่อง จุฬาตรีคูณ แต่ด้วยความเป็นนักเขียนหน้าใหม่ ทำให้ยังไม่มีสำนักพิมพ์ไหนยอมตีพิมพ์ให้ กระทั่งพนมเทียนนำต้นฉบับไปเสนอ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล เจ้าแห่งละครวิทยุในยุคนั้น ที่ถูกใจจนนำไปทำเป็นรายการวิทยุและพัฒนาต่อเป็นละครเวที จนกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานระดับตำนานที่เริ่มทำให้ชื่อของพนมเทียนเป็นที่รู้จักมากขึ้น
หลังจากนั้นพนมเทียนก็เดินหน้าบนเส้นทางสายน้ำหมึกมาโดยตลอด กระทั่งในปี 2507 ที่เขาได้รวบรวมประสบการณ์ผจญภัยในป่า ตำนานเรื่องเล่าพื้นบ้าน มาเป็นวัตถุดิบในการสร้างจักรวาล ‘เพชรพระอุมา’ เล่าเรื่องการผจญภัยในป่าลึกที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น มิตรภาพ และความรักของกลุ่มเพื่อน ทั้ง รพินทร์ ไพรวัลย์, ดาริน วราฤทธิ์, เชษฐา วราฤทธิ์, ไชยยันต์ อนันตรัย, แงซาย และเหล่า ‘ลูกหาบ’ ผู้น่ารัก จนกลายเป็น ‘ตำนาน’ แห่งวงการวรรณกรรมที่ใช้เวลาเกือบ 26 ปีในการเขียนให้เสร็จสมบูรณ์
ตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษ พนมเทียนได้สร้างสรรค์ผลงานที่ทรงคุณค่าทางวรรณศิลป์เอาไว้มากมาย นับเฉพาะนวนิยายก็มีมากถึง 38 เรื่อง ที่ทุกเรื่องล้วนมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยการใช้ภาษาที่สวยงาม เหนือจินตนาการ สะท้อนสังคม และพาผู้อ่านไปสำรวจเบื้องลึกในจิตใจของมนุษย์ได้อย่างยากที่จะหาใครเปรียบเทียบ เช่น มัจจุราชสีรุ้ง, แววมยุรา, ล่าพระกาฬ, ละอองดาว, เล็บครุฑ, ศิวาราตรี ฯลฯ และได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2540
ผลงานทุกเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นจากปลายปากกาของ ‘พนมเทียน’ ไม่ใช่เพียงแค่มอบความสนุกให้กับผู้อ่าน แต่ยังเป็นเหมือน ‘แสงสว่าง’ ที่นำทางให้กับวงการวรรณกรรม กลายเป็นหนึ่งในต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนทั่วทั้งประเทศไทยในการสร้างสรรค์ผลงานสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
และแม้ในวันนี้พนมเทียนจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ทุกตัวอักษร ทุกตัวละคร และทุกเรื่องราวที่เขาฝากเอาไว้จะยังคงอยู่คู่กับผู้อ่านชาวไทยไปตลอดกาล
ภาพ: เรารักพนมเทียน / Facebook
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์