เมื่อวานนี้ (16 เมษายน) สาธารณสุขสิงคโปร์เผยว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 728 รายในวันเดียว นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมสูงถึง 4,427 ราย รักษาหาย 683 ราย และเสียชีวิตแล้ว 10 ราย โดยไม่มีผู้นำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน
ผู้ป่วยรายใหม่ 654 รายเป็นแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างแออัดในหอพักคนงาน อีก 48 รายเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ขณะที่อีก 26 รายเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้อยู่ในคลัสเตอร์เดียวกันกับแรงงานต่างชาติข้างต้น โดยคลัสเตอร์การระบาดที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์อยู่ที่หอพัก S11 Dormitory @ Punggol ที่ขณะนี้ผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 1 ใน 5 ของสิงคโปร์พักอาศัยอยู่ที่นี่
ล่าสุดทางการสิงคโปร์ได้ประกาศยกเลิกคลัสเตอร์ที่เคยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สองแห่งคือ คลัสเตอร์มิสยิด Al-Muttaqin และโบสถ์ Bukit Timah ในย่านเซ็นทรัล หลังคลัสเตอร์เหล่านี้ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ที่มีความเชื่อมโยงกันมาแล้ว 28 วัน
ทางการคาดว่าจะตรวจหาเชื้อแรงงานต่างชาติได้อีกราว 5,000 รายในสัปดาห์นี้ ทั้งคนที่มีอาการป่วยและไม่มีอาการป่วยแต่มีประวัติอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อมาก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดในคนกลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแรงงานจากประเทศในเอเชียใต้
พร้อมทั้งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติที่หายดีแล้ว รวมถึงแรงงานต่างชาติที่มีผลเลือดเป็นลบต่อเชื้อไวรัสดังกล่าวมาอาศัยอยู่บนเรือ SuperStar Gemini เป็นการชั่วคราว โดยได้รับเสียงทัดทานจำนวนไม่น้อยที่เรียกร้องให้ดูเคสเรือสำราญอื่นๆ เคยเป็นคลัสเตอร์การระบาดอย่างดีมาก่อนอย่าง Diamond Princess, MS Zaandam หรือ Grand Princess
ภาพ: Suhaimi Abdullah / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: