ตรอกข้าวสาร หรือ ‘ถนนข้าวสาร’ คือแหล่งท่องเที่ยวและจุดแวะพักยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย
ยามค่ำคืนของที่นี่คราคร่ำไปด้วยผู้คนหลากเชื้อชาติ สตรีทฟู้ด เครื่องดื่มมึนเมา และเสียงเพลงชวนขยับแข้งขา
แต่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นเดือนแห่งการถวายความอาลัยและความโศกเศร้า ถนนข้าวสารจะแตกต่างจากเดิมมากน้อยเพียงใด?
THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ของผู้ประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงขนาดใหญ่ เจ้าของร้านอาหารสตรีทฟู้ด และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อหาคำตอบ
ผู้ประกอบการชี้ สถานการณ์ปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว เพราะได้วางแผนล่วงหน้า
เจนวิทย์ ชยวรประภา รองประธานกรรมการ บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านอาหารและสถานบันเทิงกว่า 10 แห่ง เช่น Buddy Beer Wine Bar & Seafood, Brick Bar และ Mulligans Irish Bar เปิดเผยกับเราว่า ข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามคือยังไม่มีมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดร้านอาหารเป็นพิเศษ (ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม) ส่วนผับบาร์และสถานบันเทิงทั้งหมดจะต้องงดให้บริการความบันเทิง ครอบคลุมถึงการเล่นดนตรีสดและการแสดงสดเป็นระยะเวลาทั้งหมด 7 วัน ตั้งแต่วันออกพรรษา (5 ตุลาคม), วันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของรัชกาลที่ 9 (13 ตุลาคม) และช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในระหว่างวันที่ 24-29 ตุลาคม
“สถานบันเทิงในเครือเรา เช่น Brick Bar, The Club, Molly, 999 West จะปิดให้บริการทั้งหมดในช่วงพระราชพิธีฯ ตั้งแต่วันที่ 24-29 ตุลาคม ส่วนร้านอาหาร เราจะปรับเสียงเพลงให้เบาลงและเปลี่ยนมาเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ มีการตกแต่งโทนร้านอาหารบางร้านให้ทึบลง แต่ก็คงจะปรับมากไม่ได้
“ส่วนเรื่องผลกระทบ ตอนนี้ยังไม่เห็นชัดเจนนะครับ แต่รู้ว่าค่อนข้างเงียบ เพราะห้ามโฆษณา ไหนจะอารมณ์ผู้บริโภคที่อาจจับจ่ายน้อยลงอีก เปรียบเทียบเดือนที่แล้วกับเดือนนี้อาจจะไม่ได้เห็นผลมาก เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงต้นเดือน แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วก็ถือว่าค่อนข้างตกลงพอสมควรเลย เมื่อปีที่แล้วช่วงต้นเดือนยังโอเคอยู่ แต่มาปีนี้ดรอปลง สำหรับวันที่ 13 ปีนี้ร้านอาหารของเราก็ยังเปิดให้บริการอยู่ จำนวนลูกค้านักท่องเที่ยวก็ลดลงไปจากเดิมบ้างประมาณ 10% ที่เห็นได้ชัดเลยคือกำลังซื้อของเขาลดน้อยลง”
เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน สำนักพระราชวังได้ประกาศปิดการเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วตั้งแต่วันที่ 1-29 ตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และจะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมอีกครั้งในวันที่ 30 ตุลาคมเป็นต้นไป
เจนวิทย์มองว่าเมื่อมีการปิดวัดพระแก้วชั่วคราวอาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเบาบางลงไปบ้าง และน่าจะมีผลกระทบทางอ้อมกับธุรกิจในเครือของเขาอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี วิธีที่ดีที่สุดที่ผู้ประกอบการอย่างเขาพอจะทำได้ก็คือ ‘การปรับตัว’ และยังเชื่ออีกด้วยว่าสถานการณ์ในปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อน เพราะทุกฝ่ายได้เตรียมการวางแผนล่วงหน้า
“ผมคิดว่าเพื่อพ่อของเรา เราเองก็ต้องปรับตัวและวางแผน ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมันเกิดขึ้น เราก็ต้องปรับตัวเราเองเพราะการไว้อาลัยและงานพระราชพิธีฯ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนไทย อย่างร้านผมก็มีนโยบายให้พนักงานเก็บวันหยุดพักร้อนมาใช้ในเดือนน้ีแทน แล้วค่อยมาทำงานกันอีกทีช่วงปลายปี
“ส่วนลูกค้าก็น่าจะลดลงอยู่แล้ว ก็คงมีผลกระทบบ้าง แต่ก็อยู่ในส่วนที่เราคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะรับมืออย่างไร รู้ว่าจะหมุนวันหยุดพนักงานอย่างไร มีโปรโมชันช่วงไหน แล้วจะมีรายรับเท่าไร สถานการณ์ปีนี้จึงดีกว่าปีที่แล้ว เพราะทุกคนรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรภายใต้ขอบเขตที่มี ผมเชื่อว่าปีที่แล้วทุกคนช็อกกันหมด ไม่รู้อะไรที่เรียกว่า ‘เหมาะสม’ แต่มาปีนี้ภาครัฐมีขอบข่ายที่ชัดเจน ผู้ประกอบการก็สามารถวางแผนได้ง่ายขึ้น ผมเลยเชื่อว่าผลกระทบน่าจะไม่เยอะมาก
“ผมมองว่าผู้ประกอบการธุรกิจอย่างนี้ (สถานบันเทิง) ก็ต้องเข้าใจและปรับตัวไปตามสถานการณ์ เรามีหน้าที่ที่ต้องวางแผนมากกว่า เพราะเมื่อจบช่วงพระราชพิธีแล้ว ผมเชื่อว่าธุรกิจบนถนนข้าวสารก็จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน”
เพื่อยืนยันข้อมูลมาตรการควบคุมและกำหนดการเปิด-ปิดสถานบันเทิงที่แน่นอน เราจึงติดต่อไปยังสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลความเรียบร้อยบริเวณถนนข้าวสาร แต่ได้รับแจ้งว่าข้อมูลที่ทาง สน. นำมาขยายความต่อถึงผู้ประกอบการอีกทีหนึ่งนั้นเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจากสำนักพระราชวัง ดังนั้นทาง สน. จึงไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมในเวลานี้
ร้านสตรีทฟู้ดลดจำนวนปริมาณวัตถุดิบ
ผู้ประกอบการระดับเล็กๆ เช่น ร้านอาหารสตรีทฟู้ดริมทางเชื่อว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวกิจการของตัวเองก็คงจะได้รับผลกระทบกันหมดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยลง แต่ก็หันมาปรับตัวด้วยการสั่งวัตถุดิบประกอบอาหารให้น้อยลงแทน
สุธาทิพย์ มูลจักร์ แม่ค้าขายผัดไทยย่านถนนข้าวสารบอกกับเราว่า เธอขายอาหารในละแวกนี้มาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ส่วนช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ร้านอาหารหลายๆ ร้านก็น่าจะได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด
“เดือนตุลาคมปีที่แล้วลูกค้าน้อยลง เพราะแถวนี้ค่อนข้างเงียบ ส่วนเดือนตุลาคมนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะขายดีไหม แต่ลูกค้าก็คงจะน้อยลง เพราะเขาให้ร้านอาหารเปิดเพลงจนถึงเที่ยงคืน ถามว่ามีผลกระทบไหม มันก็มีผลกระทบกับร้านอาหารทุกร้านอยู่แล้ว แต่ก็น่าจะพอขายได้ เพียงแต่อาจจะไม่เหมือนช่วงไฮซีซัน
“ส่วนเรื่องปริมาณวัตถุดิบ ถ้าเป็นช่วงวันธรรมดาหรือช่วงงานพระราชพิธี เราก็คงจะสั่งวัตถุดิบมาน้อยลง แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-เสาร์ก็คงจะทำเป็นปกติเหมือนเดิม”
ขิ่นเหมาโซ พ่อค้าร้านเคบับที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้านผัดไทยของสุธาทิพย์บอกว่า เขาเพิ่งเริ่มประกอบกิจการได้เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น และทราบว่าเดือนนี้จะมีการจัดงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพของรัชกาลที่ 9 ขึ้น แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดกำหนดการสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่แน่ชัด
“ผมคิดว่าเมื่อถึงช่วงเวลานั้นแล้วลูกค้าจะน้อยลง ก็คงจะลดปริมาณการสั่งวัตถุดิบทุกอย่างให้น้อยลงจากเดิม ซึ่งตอนนี้ก็ลดจำนวนไปเยอะมากแล้วเหมือนกัน ส่วนเรื่องผลกระทบก็คิดว่าคงจะได้รับอยู่แล้ว”
นักท่องเที่ยวเผย ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ขณะที่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เราได้พูดคุยต่างทราบข่าวที่รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตกันทุกคน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เพราะตั้งใจมาเที่ยวที่ประเทศไทยแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น
กัลล์ นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเล่าให้เราฟังว่า เขาเดินทางมาที่ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยครั้งนี้เขาเดินทางมาจากประเทศอินโดนีเซียโดยแวะพักที่ประเทศไทยเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ก่อนจะเดินทางกลับอิสราเอลในวันรุ่งขึ้นทันที
“ผมไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในการมาประเทศไทยระหว่างครั้งนี้กับครั้งที่ผ่านๆ มานะครับ ไทยก็ยังเป็นประเทศที่สวยงามเหมือนที่มันเป็นมาตลอด ผู้คนยอดเยี่ยม อาหารก็อร่อย
“เมื่อปีที่แล้วผมได้เห็นข่าวว่าพระองค์เสด็จสวรรคต และมันก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนดีเช่นพระองค์ต้องจากไป ผมได้ยินว่าผู้คนรักพระองค์มากๆ ถ้าคุณมาจากที่อื่น คุณจะได้เห็นว่าพระองค์เป็นที่รักของทุกๆ คนเลย ส่วนตัวคิดว่างานในเดือนนี้ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับแผนการเดินทางของผม ทุกๆ อย่างก็เหมือนเดิมหมด”
ด้าน ลิซ่า และ อลิส สองนักท่องเที่ยวสาวชาวสวีเดนที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นทริปสั้นๆ แค่ 3 วันบอกว่า พวกเธอพอจะทราบข่าวรัชกาลที่ 9 มาบ้าง และเมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยก็ได้เห็นผู้คนจำนวนมากสวมเสื้อและติดเข็มกลัดสีดำเพื่อแสดงความไว้อาลัย แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้มองว่าการเดินทางมาประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมนี้จะทำให้ต้องปรับเปลี่ยนตารางการเดินทางหรือกังวลอะไรเป็นพิเศษ
ขณะที่ มาทิลด์ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในช่วงระยะเวลา 4 วันพร้อมแฟนหนุ่มบอกกับเราว่า ก่อนเดินทางมาที่นี่ เธอไม่ทราบมาก่อนว่าเดือนนี้จะมีการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพขึ้น และรู้สึกทึ่งไม่น้อยที่เห็นคนไทยจำนวนมากแสดงออกถึงความอาลัยด้วยการสวมใส่เครื่องแต่งกายสีดำ
“โดยส่วนตัวฉันมองว่าคนไทยค่อนข้างเป็นมิตรมากๆ เลยค่ะ ผู้คนส่วนใหญ่ก็ดูมีความสุขกันดี เมื่อคุณขอความช่วยเหลือ พวกเขาก็ยินดีที่จะช่วย ส่วนเรื่องพระราชพิธีฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ ฉันไม่เคยทราบมาก่อนเลย ฉันทราบแค่ว่าพระองค์เพิ่งเสด็จสวรรคตเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็คิดว่าคงไม่มีผลกระทบกับทริปการเดินทาง
“ตอนที่ฉันเดินทางมาที่ประเทศไทยด้วยสายการบินไทยก็เห็นพนักงานทุกคนติดเข็มกลัดสีดำเหมือนกันหมด แต่ก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกันว่าจะได้เห็นผู้คนจำนวนมากใส่ชุดสีดำไว้ทุกข์ขนาดนี้ ซึ่งฉันมองว่ามันเป็นการแสดงออกและการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่มากๆ”
นี่คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงและร้านอาหารสตรีทฟู้ด รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต่างวางแผนและปรับตัวกันล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจถึงความสำคัญของงานที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้เป็นอย่างดี