วันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 10.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนว่าพายุโซนร้อน ‘ขนุน’ (KHANUN) บริเวณอ่าวตังเกี๋ยได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 390 กิโลเมตร
คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวตังเกี๋ยภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
แต่อย่างไรก็ตาม ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ขณะที่พยากรณ์อากาศประจำวันในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีฝนตกร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่าอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันและการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาต้ังแต่วันที่ 10-16 ตุลาคม ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด 33 อําเภอ 215 ตําบล 1,230 หมู่บ้าน ได้แก่
กําแพงเพชร, ตาก, พิจิตร, นครสวรรค์, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี และกาฬสินธ์ุ
ล่าสุดสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัดคือ กำแพงเพชร ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,814 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย (จังหวัดตาก 1 ราย จังหวัดพิจิตร 2 ราย)
ขณะที่สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 34 แห่ง ส่วนใหญ่ยังมีปริมาณน้ำอยู่ในภาวะวิกฤต โดยมีเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 อยู่ถึง 20 แห่ง เช่น เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนจุฬาภรณ์, เขื่อนอุบลรัตน์, เขื่อนลำปาว, เขื่อนสิรินธร, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์, เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล ฯลฯ
Photo: www.sattmet.tmd.go.th