PTTGC ผลงานทรุด ปี 2562 กำไร 11,682 ล้านบาท ลดลง 71% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาผลิตภัณฑ์และปริมาณขายที่ลดลง รับผลกระทบสงครามการค้า พร้อมจ่ายปันผลงวดที่เหลืออัตราหุ้นละ 1 บาท ขึ้น XD 28 กุมภาพันธ์ 2563 กำหนดจ่าย 28 เมษายน 2563
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายงานผลดำเนินงานปี 2562 มีกำไรสุทธิ 11,682 ล้านบาท ลดลง 71% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40,069.5 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงและปริมาณขายที่ลดลง
โดยปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 409,688 ล้านบาท ลดลง 21% โดยราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-คนที่มีผลกระทบต่อเนื่องตลอดปี ส่วนปริมาณขายที่ลดลง เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของหน่วยผลิตหลักในธุรกิจอะโรเมติกส์ และธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 4/62 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 85,003 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยไตรมาสนี้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนจำนวน 928 ล้านบาท รับรู้ผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน และกลับรายการมูลค่าทางบัญชีสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ รวม 235 ล้านบาท กำไรจาก Commodity Hedging 892 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 440 ล้านบาท ส่งผลมีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท ลดลง 91% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับแนวโน้มปี 2663 คาดราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 58-62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม คาดว่าสถานการณ์ราคาและส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์จะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการ IMO ในการควบคุมระดับกำมะถันในน้ำมันเตาที่ใช้ในอุตสาหกรรมเดินเรือ ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเกรดกำมะถันต่ำเป็นเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทรเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคาดีเซลกับน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 14-15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ส่วนต่างราคา LSFO กับน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 20-21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในส่วนของการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันของ PTTGC คาดจะดำเนินการผลิตได้เต็มที่ 101%
แนวโน้มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์คาดว่าส่วนต่างผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับแนฟทาจะอยู่ที่ 250-300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทรงตัวจากปีก่อน ส่วนสถานการณ์ผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีแนวโน้มทรงตัวเช่นกัน แม้คาดการณ์จะมีกำลังการผลิตใหม่ปรับสูงขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลดำเนินงานปี 2562 จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 2 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 1 บาท คงเหลือปันผลส่วนที่เหลือหุ้นละ 1 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิ์รับเงินปันผล (XD) วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 และกำหนดจ่ายวันที่ 28 เมษายน 2563
เรียบเรียง: จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
