×

สื่อต่างประเทศเปิดบันทึกลับบ่งชี้วิธีที่จีนตัดสิน-คุมขังชาวอุยกูร์ในค่ายปรับทัศนคติ

18.02.2020
  • LOADING...

บันทึกลับที่รั่วไหลมาจากจีน เปิดเผยถึงวิธีการที่ทางการจีนสอดส่อง ตัดสิน และควบคุมตัวชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในค่ายกักกันปรับทัศนคติ ในเขตปกครองตนเองซินเจียง โดยผู้ต้องขังบางคนถูกจับเพราะหนวดเครา คลุมผ้าคลุมศีรษะ หรือใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับคนในต่างประเทศ

 

เอกสารดังกล่าวผ่านการตรวจสอบและนำมารายงานโดย BBC และ CNN โดยปรากฏข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลของชาวอุยกูร์กว่า 3,000 คนในเขตปกครองตนเองซินเจียง แบ่งเป็นแถวและคอลัมน์ย่อยๆ รวม 137 หน้ากระดาษ ซึ่งมีบันทึกข้อมูลกิจวัตรประจำวัน เช่น สวดมนต์บ่อยแค่ไหน แต่งกายอย่างไร มีใครที่ติดต่อสื่อสารด้วย และสมาชิกครอบครัวมีความประพฤติอย่างไร

 

นอกจากนี้ยังปรากฏข้อมูลการสอบสวนชาวอุยกูร์จำนวน 311 คน ซึ่งประกอบด้วยประวัติภูมิหลัง กิจวัตรทางศาสนา และความสัมพันธ์กับเครือญาติ เพื่อนบ้าน และมิตรสหาย โดยมีการเขียนคำตัดสินลงในคอลัมน์สุดท้ายว่า ผู้ที่ถูกกักตัวควรอยู่ต่อ หรือปล่อยตัวเป็นอิสระ รวมถึงความเห็นว่าผู้ที่ถูกปล่อยตัวก่อนหน้านี้ควรกลับเข้ามาปรับทัศนคติใหม่อีกครั้งหรือไม่

 

ข้อมูลในบันทึกส่วนหนึ่งเผยให้เห็นว่า พ่อของชายชาวอุยกูร์คนหนึ่งถูกกักขัง 5 ปี จากการที่ไว้หนวดเคราสองสีและจัดกลุ่มสอนศาสนา

 

ส่วนอีกกรณีเป็นการประเมินความประพฤติของชายวัย 65 ปี ซึ่งมีบันทึกประกอบเกี่ยวกับลูกสาว 2 คนที่คลุมผ้าคลุมศีรษะและสวมใส่บูรกาในปี 2014 และ 2015 และข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาการเมืองอิสลามของลูกชาย และข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวที่บ่งชี้ว่ามีพฤติกรรม ‘ต่อต้านชาวฮั่นอย่างชัดเจน’

 

อีกกรณีที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างของผู้ที่ถูกกักขัง เพราะติดต่อสื่อสารกับคนในอินเทอร์เน็ต และมีอีกคนถูกควบคุมตัวในความผิดฐานเก็บภาพที่บ่งชี้ถึงการเป็นกบฏในมือถือ

 

นอกจากความเห็นให้คุมขังแล้ว ยังมีชุดข้อมูลของชาวอุยกูร์กว่า 20 คนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ทางการเห็นควรให้ปล่อยตัวไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรม และมีคำแนะนำให้ประกอบอาชีพที่มีตัวเลือกไม่มาก แต่พวกเขาจำต้องทำ

 

เอกสารฉบับใหม่เป็นอีกหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ว่าทางการจีนมีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์ภายในค่ายกักกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาติตะวันตกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยเมื่อปีที่แล้วก็มีเอกสารลักษณะเช่นนี้รั่วไหล รวมถึงภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของชาวอุยกูร์ภายในค่ายปรับทัศนคติ โดยมีบางคนถูกทรมานจนบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และยืนยันว่าการปรับทัศนคติชาวอุยกูร์เป็นมาตรการป้องกันการก่อการร้าย และฝึกฝนทักษะอาชีพให้กับชาวอุยกูร์เพื่อให้อยู่ในสังคมได้

 

ภาพ: ShutterStock  

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X