เกิดแรงเทขายกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (21 มกราคม) หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่นของจีนเป็นรายแรกของประเทศ โดยดัชนี Dow Jones ดิ่งลง 152.06 จุด ปิดที่ 29,196.04 จุด หรือลดลง 0.52% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการระบาดของไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบอู่ฮั่นอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก
นอกจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones ที่ปิดลบครั้งแรกหลังปิดบวกติดต่อกัน 5 วันแล้ว ดัชนีหลักอีกสองดัชนีของตลาดหุ้นวอลสตรีทอย่าง S&P 500 และ Nasdaq Composite ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยดัชนี S&P 500 ปิดลบ 8.83 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 3,320.79 จุด ขณะที่ Nasdaq ลดลง 18.14 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 9,370.81 จุด
กระแสความหวาดวิตกเกิดขึ้นหลัง CDC เปิดเผยว่า ชายคนหนึ่งจากสโนโฮมิช เคาน์ตี รัฐวอชิงตัน ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น หลังเดินทางกลับจากจีนเมื่อวันที่ 15 มกราคม และได้เข้าพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเริ่มมีอาการคล้ายโรคปอดอักเสบ โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าขณะนี้ผู้ป่วยยังแข็งแรงดี และถูกแยกกักที่ศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่งเพื่อควบคุมโรค พร้อมยืนยันว่าความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสในสหรัฐฯ ยังมีไม่มาก
แนนซี เมสซอนเนียร์ ผู้อำนวยการศูนย์การก่อภูมิคุ้มกันและโรคเกี่ยวกับระบบหายใจแห่งชาติของ CDC ระบุว่าเวลานี้สหรัฐฯ ได้เตรียมพร้อมรับมือในทุกระดับแล้ว โดย CDC จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของรัฐเพื่อดูแลผู้ป่วยดังกล่าว
ตั้งแต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา CDC และหน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ได้เริ่มตรวจคัดกรองประชาชนที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน มายังสนามบินแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กอย่างเข้มข้น ส่วนสนามบินในชิคาโกและแอตแลนตาได้เริ่มตรวจคัดกรองผู้โดยสารตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 มกราคม)
“เราหวังว่าช่วง 2-3 วันข้างหน้า สถานการณ์จะชัดเจนขึ้น” เมสซอนเนียร์กล่าว
ทั้งนี้ทางการจีนยืนยันว่าพบกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากคนสู่คนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในเวลานี้อยู่ที่ราว 300 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย ขณะที่ไต้หวันก็พบผู้ติดเชื้อ 1-2 รายแล้ว โดยท่าอากาศยานนานาชาติในฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ต่างเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธ์ุใหม่นี้อย่างใกล้ชิด
แรนดี เฟรเดอริก กรรมการผู้จัดการฝ่าย Trading & Derivatives แห่งศูนย์ Schwab ให้ความเห็นกับ MarketWatch ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสในจีนเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นปรับตัวลง เพราะจะเห็นได้ว่ารายงานข่าวช่วงหลังทำให้เกิดกระแสวิตกว่าอาจเกิดการระบาดในสหรัฐฯ และการที่ตลาดทำนิวไฮได้แล้วอาจอ่อนไหวต่อข่าวร้าย
นอกจากโรคระบาดแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจาก 3.4% เป็น 3.3% ในปี 2020 นอกจากนี้ยังหั่นคาดการณ์การเติบโตของ GDP สหรัฐฯ ในปีนี้เหลือ 2.0% ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงอีก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: