ทางการจีนยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นต้นเหตุของโรคปอดอักเสบลึกลับในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เพิ่มอีก 136 คน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดย 59 คน ตรวจพบเมื่อวันเสาร์ (18 มกราคม) และ 77 คน ตรวจพบเมื่อวันอาทิตย์ (19 มกราคม) นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อ 2 คน ในเขตต้าซิงของกรุงปักกิ่ง และอีก 1 คน ในนครเซินเจิ้น ใกล้กับฮ่องกง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบการระบาดในเมืองอื่นของจีนนอกจากเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มมากกว่า 200 คนแล้ว
ขณะเดียวกัน ทางการยังยืนยันว่า มีผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถือเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 3 ที่เสียชีวิต
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากอย่างก้าวกระโดดนั้นเป็นผลจากการเพิ่มการค้นหาและตรวจสอบผู้ติดเชื้อ ซึ่งล่าสุดผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่น 170 คน ยังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้ 9 คน มีอาการสาหัส
จากการตรวจสอบผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง 2 คน พบว่า ได้เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นเมื่อไม่นานนี้ ก่อนจะเกิดอาการปอดอักเสบ ส่วนผู้ติดเชื้อที่พบในนครเซินเจิ้นเป็นชายวัย 66 ปี ซึ่งเกิดอาการปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังกลับจากการไปเยี่ยมญาติในอู่ฮั่น
ขณะที่ WHO ระบุว่า ต้นตอการระบาดจากสัตว์มีความเป็นไปได้มากที่สุด โดยจนถึงตอนนี้พบว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังจำกัดอยู่แค่จากคนสู่คนและเกิดขึ้นระหว่างผู้ที่มีการติดต่อใกล้ชิด พร้อมแนะนำประชาชนให้ลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ ด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ยังมีชีวิต หรือทำอาหารจากเนื้อสัตว์หรือไข่โดยไม่มีการป้องกัน และเลี่ยงการติดต่อใกล้ชิดกับผู้มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่
ก่อนหน้านี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของจีนออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์เมื่อวันเสาร์ (18 มกราคม) ที่ผ่านมา ยืนยันว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้นสามารถป้องกันและควบคุมได้ และยืนยันว่า ไม่ใช่เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง หรือโรคซาร์ส (SARS) ที่ระบาดไปทั่วโลกในช่วงปี 2002-2003 และคร่าชีวิตประชาชนไปมากถึง 774 คน และติดเชื้อ 8,098 คน ซึ่งต้นตอการระบาดครั้งนั้นมาจากประเทศจีน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: