ย้อนกลับไปประมาณ 30 กว่าปีก่อน มีไม่กี่เหตุผลที่ทำให้วัยรุ่นแต่งหน้า ทำผม เลือกชุดแบบ ‘จัดเต็ม’ ออกไปเดินสยามหรือห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่ใช่นัดเพื่อนหรือแฟนเอาไว้ มีความเป็นไปได้ว่าวัยรุ่นคนนั้นแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเผื่อว่าจะไปเข้าตา พชร์ อานนท์ สุดยอดแมวมองและนักปั้นที่ผันตัวมาเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มี ‘ลายเซ็นจัด’ ที่สุดในวงการภาพยนตร์
พชร์-อานนท์ มิ่งขวัญตา เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2508 มีพื้นฐานคนเป็นสู้ชีวิตที่เริ่มต้นหารายได้พิเศษตั้งแต่เด็กจากการเป็นเด็กเสิร์ฟและกระเป๋ารถเมล์ ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่แวดวงบันเทิงจากการเป็นฝ่ายขายของนิตยสารเธอกับฉัน และเลื่อนขั้นเป็นบรรณาธิการในปี 2530
นอกจากนี้พชร์ยังขึ้นชื่อในเรื่อง ‘แมวมอง’ ที่มีสายตาเฉียบคมแบบสุดๆ ชนิดที่ว่าถ้าใครเข้าตาและถูกพชร์ชักชวนให้มาร่วมงานด้วยก็แทบการันตีว่ามีโอกาสแจ้งเกิดได้ทุกคน เช่น แอนดริว เกร็กสัน, ปราโมทย์ แสงศร, เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์, มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, เต๋า-สมชาย เข็มกลัด, อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล, โดม-ปกรณ์ ลัม, ฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร, กิ๊ฟต์-วรรธนะ กัมทรทิพย์, ฟลุ๊ค-เกริกพล มัสยวานิช, ตั๊ก-บริบูรณ์ จันทร์เรือง, ออย-ธนา สุทธิกมล, แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม และฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ฯลฯ
ปี 2538 พชร์เริ่มผันตัวมาเป็นผู้กำกับเรื่องแรกกับ สติแตกสุดขั้วโลก ภาพยนตร์แอ็กชัน-คอเมดี้ เข้มข้น สดใหม่ แหวกแนว ที่กวาดรายได้ไปถึง 48 ล้านบาท (ซึ่งนับว่าเยอะมากในยุคนั้น)
2 ปีต่อมา พชร์เปลี่ยนแนวมากำกับภาพยนตร์ดราม่าที่สะท้อนปัญหาสังคมของวัยรุ่น ยาเสพติด ตำรวจคอร์รัปชัน และอาชญากรรม ใน 18 ฝน คนอันตราย ที่แม้จะถูกพิษเศรษฐกิจฟองสบู่เล่นงาน แต่ก็ยังทำเงินได้ 25 ล้านบาท และเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่หลายคนยังคิดถึงความดิบแบบนั้นที่ค่อยๆ หายไปในผลงานช่วงหลังๆ มาจนถึงตอนนี้
หลังจากนั้นพชร์ก็เดินหน้าสู่อาชีพผู้กำกับเต็มตัว และนับว่าเป็นผู้กำกับคิวทองที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องได้แทบทุกปี (บางปีมีมากถึง 3 เรื่อง) โดยมีลายเซ็นสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์คือการหยิบจับประเด็นที่เป็นกระแสการขยายจักรวาล เช่น หอแต๋วแตก, ม.6/5 และ หลวงพี่แจ๊ส จนกลายเป็นแฟรนไชส์ภาคต่อที่ทำเงินเกินร้อยล้านได้อยู่หลายครั้งด้วยกัน
โดยมีอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่หาใครเลียนแบบได้ยากคือพชร์เป็นผู้กำกับที่ไม่มีการเขียนบทแบบตายตัว แต่จะใช้เพียงโครงเรื่องคร่าวๆ แล้วไปอิมโพรไวส์ร่วมกับนักแสดงและทีมงานเมื่ออยู่หน้ากองถ่าย
ถึงแม้หลายคนมักจะตั้งคำถามกับผลงานแนวตลกของพชร์อยู่บ่อยๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพชร์คือตัวอย่างของผู้กำกับที่เกิดมาเพื่อ ‘ทำหนัง’ โดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดผลงานของเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เคยสนใจสิ่งที่คนอื่นมองเข้ามา และตั้งหน้าตั้งใจสร้างผลงานในแบบที่ตัวเองมั่นใจต่อไป
และสำหรับคนที่คิดถึงผลงานเก่าๆ ในยุคที่เป็นผู้กำกับสายเดือด อดใจรออีกสักนิด เพราะพชร์เพิ่งประกาศว่ากำลังจะนำผลงานมาสเตอร์พีซของเขาอย่าง 18 ฝน คนอันตราย กลับมาสร้างอีกครั้งในชื่อ 18 ฝน คนอันตราย 2020 โดยจะขนทัพนักแสดงหน้าใหม่มาสร้างความเดือดเหมือนเมื่อครั้งอดีตอีกครั้ง และจะได้ดูพร้อมกันในปี 2563