Bloomberg คาด ประเทศใหญ่คงดอกเบี้ยปี 2020, ทรัมป์เตือน พร้อมตอบโต้ หากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (25 ธ.ค. 2562)

Bloomberg คาด ปี 2020 ธนาคารกลางของประเทศขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, แคนาดา และเกาหลีใต้ มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งถูกกดดันอย่างหนักจากภาวะสงครามการค้า รวมไปถึงการสำรองการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อเตรียมรับมือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ, กรณี Brexit โอกาสเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงปลายวัฏจักร และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มสูงที่ประเทศต่างๆ จะหันมาใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมแทน

ทรัมป์ลั่น พร้อมตอบโต้เกาหลีเหนือ หากทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หลังจากที่สำนักข่าว NBC รายงานว่า พบโครงสร้างชั่วคราวซึ่งอาจเป็นฐานปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า หากเกาหลีเหนือมีความพยายามทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป เพื่อกดดันให้สหรัฐฯ ยอมรับเงื่อนไขเพิ่มเติมในการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ และกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ธันวาคมนั้น ทางสหรัฐฯ พร้อมที่จะตอบโต้เช่นเดียวกับที่เกาหลีเหนือกระทำ

ธปท. ปรับเป้าเงินเฟ้อลง วานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงสู่ระดับ 1-3% จากเดิมที่ 1-4% (2.5% บวกลบ 1.5%) ซึ่งประกาศใช้มานับตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงปัจจัยด้านโครงสร้างที่ส่งผลให้ต้นทุนและราคาสินค้าต่ำลง เป็นสาเหตุให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงในระยะต่อไป และเพื่อให้มีความยืดหยุ่นให้นโยบายการเงินสามารถช่วยดูแลสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประท้วงฮ่องกงเดือดรับคริสต์มาสอีฟ วานนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประท้วงในฮ่องกงยังคงมีการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจปราบจลาจลอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวานนี้ได้มีการปะทะกันในห้างสรรพสินค้า เขตท่องเที่ยวสำคัญ และโรงแรม ส่งผลให้มีการใช้กำลังเข้าปราบปรามอีกครั้ง ทั้งในส่วนของแก๊สน้ำตา รวมไปถึงเล็งปืนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามในย่านจิมซาจุ่ย ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งช่วงคริสต์มาสชื่อดัง ยังคงมีผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย โดยมีกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยในบริเวณใกล้เคียง

สหรัฐฯ เตือนอังกฤษระวังเทคโนโลยี 5G จากจีน วานนี้ โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อระบุถึงอังกฤษว่า การอนุญาตให้ Huawei บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนมีส่วนร่วมในโครงการ 5G ของอังกฤษนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้จีนเข้าถึงข้อมูลที่มีนัยสำคัญของพลเมืองอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลระดับทั่วไป จนถึงระดับความลับของรัฐบาลอย่างความลับด้านนิวเคลียร์ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลอังกฤษควรแบนกิจการของ Huawei อย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยด้านข้อมูล เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมให้ผู้ให้บริการทางโทรคมนาคมหลีกเลี่ยงการใช้สินค้า ชิ้นส่วน และบริการจากบริษัทสัญชาติจีน

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

ดัชนี Dow Jones และ S&P500 ปรับตัวลง ขณะที่ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไรบางส่วน ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดเปิดทำการแค่ครึ่งวัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูประเด็นสงครามการค้าที่จะมีการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเร็วๆ นี้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดทำการ

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากที่รัสเซียจะร่วมมือกับกลุ่ม OPEC ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมไปถึงการคาดการณ์ว่า สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะลดลง ส่งผลให้ด้านอุปทานน้ำมันลดลง ขณะที่ด้านอุปสงค์ยังคงดีอยู่ ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นกลับมายืนเหนือ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง จากที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนวันปิดทำการ เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงตลาดปิดทำการ

สหรัฐฯ