ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ-ดุสิต และประธานคณะกรรมการนโยบายด้านสตรีของพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเวทีเสวนา ‘1 ปี รัฐบาล ความก้าวหน้านโยบายผู้หญิง’ ณ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ (23 ธันวาคม) โดยได้กล่าวถึงการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนที่เริ่มมีรัฐบาลมา ทั้งในเชิงนโยบายและการลงมือปฏิบัติสำหรับประเด็นเรื่องความปลอดภัยของผู้หญิง โดยลงพื้นที่นำร่องในเขตพื้นที่บางซื่อ-ดุสิตที่เป็น ส.ส. ของเขตดังกล่าว รวมถึงแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ จากผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาเพื่อผลักดันนโยบายด้านผู้หญิงกับรัฐบาล
“สำหรับผู้หญิง ความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เมื่อผู้หญิงใช้ชีวิตด้วยความมั่นคงปลอดภัยในสังคมแล้ว คุณภาพชีวิต รายได้ ความเป็นอยู่ของผู้หญิงก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงได้ผลักดันแผนงาน Women Homeland Security เพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งทางกายและใจของผู้หญิงทุกเพศ ทุกวัย และตลอดเวลากว่า 6 เดือน ได้เดินหน้าโครงการ กิจกรรมต่างๆ ในเขตพื้นที่นำร่องบางซื่อ-ดุสิต ได้ส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทั้งคนในรุ่นนี้และในอนาคต สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของยุทธศาสตร์ชาติ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประเมินกิจกรรมต่างๆ ก็อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการที่น่าพึงพอใจ” ธณิกานต์กล่าว
ธณิกานต์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรมโดยลดจุดเสี่ยงมืดเปลี่ยว ป้องกันอาชญากรรม อุบัติเหตุ และยาเสพติด อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น โครงการเปิดไฟให้สตรี (แจกไฟโซลาร์), โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV (อยู่ระหว่างรองบประมาณเพื่อดำเนินการ), โครงการ Safety Spot หรือปักหมุดจุดเสี่ยง ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้เกิดการประสานระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่รวดเร็วขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลให้สังคมปลอดภัย, โครงการสังคมสีขาว (ไร้ยาเสพติด) โดยร่วมกับ ป.ป.ส. แจกที่ตรวจยาและลงพื้นที่นำจับ, โครงการปรับปรุงทางเท้าตลอดแนว, โครงการปรับปรุงทาสีทางม้าลายเป็นสีแดงเพื่อความปลอดภัยในขณะข้ามถนน เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงของยุทธศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการเพื่อสนองรับวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคั่งของยุทธศาสตร์ชาติ โดยมุ่งให้ผู้หญิงมีความปลอดภัยด้านจิตใจ โดยเฉพาะประเด็นความมั่นคงด้านรายได้โดยได้จัดกิจกรรมอบรมเพื่อพัฒนาทักษะสร้างอาชีพในยุคดิจิทัลให้กับแม่บ้านในชุมชน เช่น การทำอาหาร การสร้าง Branding & Packaging และการซื้อขายออนไลน์ และจัดกิจกรรมเสริมสร้างให้ชุมชนเป็นสังคมปลอดขยะ โดยร่วมกันจัดการขยะตั้งแต่ต้นน้ำเพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม ลดรายจ่ายครัวเรือน และเพิ่มรายได้
โดยริเริ่มกิจกรรมแลกขยะลุ้นทองในชุมชนตรอกต้นโพธิ์ ชุมชนแฟลตสิริสาสน์ ชุมชนองค์การทอผ้า ชุมชนพัฒนาซอยสินทรัพย์ ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบของกิจกรรมนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจในการคัดแยกขยะและรีไซเคิลขยะได้อย่างเข้าใจ ในอนาคตสามารถลดรายจ่ายในการจัดเก็บขยะและสร้างรายได้เพิ่มจากการรีไซเคิลขยะได้ ทั้งนี้โครงการกิจกรรมต่างๆ จะมีการถอดบทเรียนและขยายผลไปยังชุมชนอื่นในเขตที่มีความพร้อมต่อไป
ธนิกานต์กล่าวอีกว่า การที่จะทำให้โครงการต่างๆ มีความยั่งยืนและประสบความสำเร็จในการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้หญิงคือ การมีส่วนร่วมของเยาวชน เพราะเยาวชนเป็นทั้งผู้ที่ใช้ประโยชน์ในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต และเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของยุทธศาสตร์ชาติ จึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรม อาทิ เช่น กิจกรรม Urban Planning สร้างเมืองปลอดภัยสำหรับผู้หญิง โดยให้เด็กและเยาวชนเข้ามาร่วมออกแบบเมืองปลอดภัยที่อยากเห็นในอนาคต และได้จัดกิจกรรม Sex Education นำร่องที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ให้ความรู้ความเข้าใจในมิติทางเพศ สุขภาวะ การเปลี่ยนแปลง การดำรงอยู่ในสังคม และการสร้าง Mindset ใหม่ของการเรียนรู้ ซึ่งจากกิจกรรมต่างๆ พบว่าเยาวชนมีความสนใจและมีการนำเสนอไอเดียความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นความหวังที่ดีของสังคมที่ยั่งยืน
สำหรับประเด็นข้อเรียกร้องด้านนโยบายผู้หญิงที่ได้แลกเปลี่ยนกันในเวทีเสวนา เช่น การมอบหมายผู้รับผิดชอบ การต่อต้านการค้ามนุษย์ในเด็กและผู้หญิง การดูแลเด็กและผู้หญิงในเขตจังหวัดชายแดนใต้นั้น เห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจและสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นจริงได้ในรัฐบาลนี้ ทั้งนี้ช่องทางเพิ่มเติมในการร่วมผลักดันนโยบายและกฎหมายเพื่อผู้หญิงในมิติต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา ด้านสุขภาวะ ด้านแรงงาน ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านเศรษฐกิจ ฯลฯ คือการรวบรวมข้อมูลเชิงสถิติ นโยบายหรือกฎหมายที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้หญิง ตลอดจนนำเสนอแนวทางการพัฒนาในอนาคตและนำเสนอยื่นหนังสือโดยตรงมาที่รัฐสภา ในนามคณะกรรมาธิการสามัญต่างๆ ทั้ง 35 คณะ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า