บริษัทเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอาเนสโก (Anesco) ในสหราชอาณาจักร เปิดตัว ‘เคลย์ฮิลล์’ (Clayhill) ฟาร์มโซลาร์เซลล์พร้อมติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นจำนวนมหาศาลแห่งแรกทางภาคตะวันออกของประเทศอังกฤษ สืบเนื่องจากต้นทุนที่ถูกลง ฟาร์มแห่งนี้จึงไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้นจากทางรัฐบาล
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า สหราชอาณาจักรจำเป็นต้องลงทุนกับแหล่งพลังงานแห่งใหม่นี้เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เตรียมทยอยปิดตัวตั้งแต่ช่วงปี 2020 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าไว้ว่าอัตราการใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 15% ให้ได้ จากเดิมที่ในปี 2015 สหราชอาณาจักรพึ่งพาพลังงานทดแทนเพียง 8% เท่านั้น เช่นเดียวกับความพยายามจะลดเงินทุนสนับสนุนในการผลิตพลังงานทดแทน
แคลร์ เพอร์รี (Claire Perry) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจ พลังงาน และการวางยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมประจำประเทศอังกฤษกล่าวว่า “ต้นทุนของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และราคาแบตเตอรี่ที่ถูกลงในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์เคลย์ฮิลล์จะกลายเป็นฟาร์มพลังงานสะอาดแห่งแรกที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลแต่อย่างใด”
ด้าน สตีฟ ไชน์ (Steve Shine) ประธานบริษัทอาเนสโก (Anesco) ผู้พัฒนาโครงการเคลย์ฮิลล์บอกว่า “โครงการนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าการตัดสินใจถอนเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดของการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในเชิงพาณิชย์”
เชื่อว่าฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์แห่งนี้จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าแจกจ่ายให้กับที่พักอาศัยจำนวนกว่า 2,500 หลังคาเรือนได้เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้พวกเขายังมีพื้นที่สำรองในการจัดเก็บประจุไฟฟ้ามากกว่า 6 เมกะวัตต์ติดตั้งอยู่ในฟาร์มอีกด้วย
ปัจจุบันต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าถูกลงกว่าเดิมมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยทุกวันนี้พวกเขาสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 12 กิโลวัตต์ จากเดิมที่สามารถผลิตได้แค่ 2 กิโลวัตต์
ขณะที่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ก็ได้ทำลายสถิติด้วยการผลิตพลังงานได้เทียบเท่ากับอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า 25% ของทั้งประเทศ นี่จึงเป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่าอนาคตของการหันมาใช้พลังงานทดแทนอาจไม่ได้ไกลเกินความเป็นจริงแล้ว
Photo: Reuters
อ้างอิง:
