คุณกำลังอยู่ในภาวะ ‘เครียด’ อยู่หรือเปล่า?

• กังวลเรื่องงานตลอดเวลา แม้จะลาพักร้อนไปเที่ยว
• ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ขอเวลาปั่นงานส่งลูกค้าก่อน
• มีอาการปวดหัวเสมอๆ 
• รู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า กดดัน โกรธ เหนื่อยง่าย ท้อแท้ และไม่มีสมาธิ
• นอนไม่ค่อยหลับ
• หงุดหงิด เกรี้ยวกราดง่าย

 

หากคุณเลือกถูกให้กับทุกข้อที่ผ่านมา ลองสังเกตุดูว่าความเครียดของคุณอยู่ในระดับไหน และคุณกำลังใช้ชีวิตแบบ Work-ไร้-Balance มากกว่า Work-Life -Balance อยู่หรือไม่?

 

จากผลสำรวจพบว่าวัยทำงานเสี่ยงสุขภาพแย่ลง โดยคนวัยทำงานอายุ 35-49 ปีนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่น้อยที่สุด เนื่องจากต้องรับมือกับปัญหาหนักหน่วงในชีวิตต่างๆ จากการทำงานหนัก เรื่องการเงินก็เป็นมากกว่าช่วงวัยอื่น จนส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด และผลวิจัยยังพบอีกว่า ความเครียดของคนกลุ่มนี้เกิดจากแรงกดดันที่ต้องดูแลครอบครัว เวลาดูแลสุขภาพที่ไม่เพียงพอ เพราะต้องทุ่มเทเวลาและพลังแทบทั้งหมดไปกับการทำงาน ยังไม่นับถึงสถิติที่คนไทยมากกว่า 91% ระบุว่าตนเองมีความเครียด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 84% และกว่า 81% ยังระบุว่าด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่มีความแอ็กทีฟ ใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดความเครียดจากการทำงาน และชีวิตเรายังมีหลายมิติ ทั้งเรื่องความฝันในเป้าหมายของการทำงาน ครอบครัว คนรัก และความสัมพันธ์ต่างๆ ที่จะต้องใช้พลังในการประคับประคองสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้สมดุลกันภายในเวลาอันจำกัด

 

ซึ่งชีวิตแบบ Work-ไร้-Balance ส่วนหนึ่งมาจากชีวิตที่เริ่มง่ายขึ้น ใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงานที่มากขึ้น สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ และงานก็พร้อมพุ่งเข้าชนเราตลอดเวลา แชตไลน์กลุ่มอีกเป็นสิบกลุ่ม อีเมล และช่องทางอื่นๆ อีกเพียบ  

 

สุดท้ายสารพัดโรคร้ายทางกายต่างๆ ที่มาในตอนที่เราเผอเรอในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โรคอ้วน หรือกระทั่งโรคร้ายแรงอย่าง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และมะเร็ง นั้นล้วนมาจากการขาดการ ‘ป้องกัน’ ที่ดีนั่นเอง รวมไปถึงคนในช่วงอายุ 51-60 ปี ที่กำลังวางแผนจะเกษียณตัวเองจากงานที่ทุ่มเทมาตลอดชีวิตนั้นก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรเริ่มป้องกันด้วยเช่นกัน

 

ทำงานหนักเกินไป ได้ไม่คุ้มเสีย… 

ร่างกายของคุณเหมือนพาร์ตเนอร์ในชีวิต หากใช้ร่างกายมาหนักมาก ควรดูแลและป้องกัน ให้ความสำคัญกับพาร์ตเนอร์ของคุณด้วย เพราะเขาคือคนสนิทที่ทำให้คุณหาเงินไปซื้อของได้ มีข้าวกิน มีงานที่ดีๆ ทำ และมีชีวิตที่ดีขึ้น อย่ามัวแต่ใช้เพื่อนสนิทของคุณทำงานจนลืมที่จะป้องกันและรักษา สักวันก็คงต้องพังและเสื่อมไปตามสภาพ เงินที่เก็บออมจากการทุ่มทำงานหนักมาตลอดชีวิต สุดท้ายก็ต้องหมดไปกับการรักษาตัวเองตอนล้มป่วย เพราะร่างกายที่ทรุดโทรมจากการใช้งานหนัก

 

 

ทำความรู้จักร่างกายของคุณให้ดียิ่งขึ้นด้วย ‘การตรวจสุขภาพเชิงลึก’ ที่บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก

 

 

ด่านแรกในการทำความรู้จักร่างกายของคุณให้ลึกยิ่งขึ้นคือการตรวจสุขภาพเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ ด้วย ‘2nd chance โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึก เพื่อวางแผนป้องกันและชะลอความเสื่อมที่ต้นเหตุ’ 

 

ซึ่งที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก มีโปรแกรมการตรวจวิเคราะห์ที่เฉพาะเจาะจงในเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้การวิเคราะห์หาปัจจัยเสี่ยงมีความละเอียดและครบถ้วน เพื่อการป้องกันการเกิดโรคในอนาคต เช่น โปรแกรม Regenerative Signature, Revitalize Signature และ Rejuvenation Signature อีกทั้งแพทย์ผู้ชำนาญการยังสามารถให้คำแนะนำ และวิธีการเสริมสร้างร่างกายแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุดอีกด้วย เช่น การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ การออกกำลังที่เหมาะสม หรือการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเฉพาะบุคคล 

 

 

เพราะตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี อาจจะไม่เท่ากับตัวเลขที่ร่างกายบอกคุณ

การตรวจความเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย การทราบอายุและสภาพของเซลล์ในร่างกายตนเอง จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะช่วยให้รู้จักกับร่างกายของเราเองได้ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีดังกล่าวเรียกว่าการตรวจเทโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอายุทางชีวภาพ (Biomarkers of Aging) เพื่อให้ทราบถึงสุขภาพของตนเอง เพราะการที่เทโลเมียร์สั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อมที่จะนำไปสู่โรคต่างๆ ในอนาคต บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก มีแพทย์ผู้ชำนาญการที่ผ่านการรับรองหลักสูตร American Board of Regenerative Medicine (ABAARM) พร้อมให้การประเมินและคำปรึกษาถึงแนวทางดูแลป้องกันเฉพาะบุคคล เพื่อตรวจวิเคราะห์ความสั้นยาวของเทโลเมียร์และแนะนำวิธีการเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ได้

 

 

‘การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ’ สิ่งที่จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและไม่เจ็บป่วย คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการหมั่นหาเวลาออกกำลังกาย แต่การออกกำลังในรูปแบบต่างๆ นั้นก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน จึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราที่สุด ซึ่งที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก มีเครื่องออกกำลังกายที่ชื่อว่า เครื่อง DAVID ที่สามารถตรวจจับ Range of Motion ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลได้ จึงช่วยในการวางแผนออกกำลังกายที่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ ได้จริง นอกจากนี้ ยังมีแพทย์ผู้ชำนาญการ นักกายภาพบำบัด และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่พร้อมให้คำปรึกษาในเรื่องการออกกำลังกายอย่างใกล้ชิด เพื่อการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ลดการบาดเจ็บและได้ผลที่ดีต่อสุขภาพ มาเริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ‘2nd Chance โปรแกรม’

 

เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มที่การป้องกัน

www.bdmswellness.com/th/register-by-program.html?&page=2nd-chance 

 

 

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก

โทร. 0 2826 9999

เว็บไซต์ www.bdmswellness.com

อ้างอิง: ผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่ประจำปี 2562 โดย บมจ. ซิกน่า ประกันภัย

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์