หลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเฉพาะในบางประเทศไปเมื่อวันอังคาร (12 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา Disney ก็ออกมาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้วว่า บริการสตรีมมิงวิดีโอ Disney+ ของพวกเขามีผู้ใช้งานที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมียอดการสมัครบัญชีแบบ Subscribers มากถึงกว่า 10 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้แค่วันเดียวเท่านั้น
ขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน Apptopia ระบุว่า ตลอดทั้งวันอังคารที่ผ่านมา Disney+ มียอดดาวน์โหลดตัวแอปฯ ลงบนสมาร์ทโฟนมากกว่า 3.2 ล้านครั้ง โดยมีจำนวนยอดการชมคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มสูงถึง 1.3 ล้านชั่วโมงภายในวันแรก ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าสนใจมากๆ
อย่างไรก็ดี Apptopia มองว่า การนำสถิตินี้ของ Disney+ ไปเทียบเคียงกับยอดผู้ใช้งาน Netflix หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิงวิดีโอในช่วงไทม์ไลน์ของการเปิดให้บริการใหม่ๆ คงจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่ Netflix เริ่มให้บริการ คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มสตรีมมิงคอนเทนต์ในลักษณะนี้ แถมอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้คนทั่วโลกในเวลานั้นก็ยังไม่ครอบคลุมเทียบเท่าปัจจุบัน
ถ้านับจนถึงตอนนี้ Disney+ เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการเฉพาะใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ โดยมีคอนเทนต์หนัง ซีรีส์ สารคดี และการ์ตูนระดับแฟลกชิปจากค่าย Disney, Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic ฯลฯ ให้เลือกชมได้แบบไม่อั้น สนนค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 212 บาท (เหมารายปีอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,115 บาท)
ในเฟสถัดไปจะเริ่มให้บริการในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเปอร์โตริโก ในช่วงวันที่ 19 พฤศจิกายน ก่อนจะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังประเทศในแถบยุโรปครอบคลุมสหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, เยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส และสเปน ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2020
ส่วนไทยและประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชียอาจจะต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Disney+ ว่าจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อไร แต่คาดการณ์เบื้องต้นว่าภายในปี 2021 หรืออีกประมาณ 2 ปีต่อจากนี้ เราน่าจะได้เห็นความคืบหน้ากัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: