×

ฝ่ามรสุมธุรกิจโรงแรมผ่านมุมมอง ‘เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์’ ซีอีโอของ SHR บริษัทลูกของสิงห์ เอสเตท [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
01.11.2019
  • LOADING...
สิงห์ เอสเตท

HIGHLIGHTS

  • เมื่อปี 2562 ธุรกิจโรงแรมเจอความท้าทายหลายด้าน ลองมาอ่านวิสัยทัศน์ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทลูกของสิงห์ เอสเตท
  • ทางออกธุรกิจโรงแรม SHR เล็งซื้อกิจการโรงแรมต่างประเทศ กระจายความเสี่ยง และเตรียมขยายเซกเมนต์ลูกค้ากลุ่มบน 
  • สิงห์ เอสเตท เตรียมนำ SHR เข้า IPO ในตลาด นักลงทุนเลือกเป็นเจ้าของได้

ธุรกิจโรงแรมไม่ได้ง่ายเหมือนอดีต เพราะเจอ Distruption จากเทคโนโลยีอย่างการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพ ที่ไม่ต้องเป็นเจ้าของโรงแรม แต่ให้บริการที่พักได้ 

 

แล้วธุรกิจโรงแรมในยุคเปลี่ยนผ่านนี้ต้องทำอย่างไร ลองหาทางออกกับ เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทลูกของสิงห์ เอสเตท

 

สิงห์ เอสเตท

 

ความท้าทายของธุรกิจโรงแรม เศรษฐกิจไม่แน่นอน-เงินบาทแข็งค่า  

เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ เล่าว่าความท้าทายของธุรกิจปีนี้มาจากความไม่แน่นอนทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันมีกรณีเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาจจะมาเที่ยวไทยลดลง เนื่องจากปัจจุบันไทยมีรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศคิดเป็น 12% ของ GDP 

 

ทว่าข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2562 นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 26.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.6% โดยเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะสูงถึง 40 ล้านคน การเติบโตของจำนวนนักท่องเท่ียวส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมเช่นกัน 

 

ขณะเดียวกันเงินบาทที่แข็งค่ายังส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวขาออก ซึ่งคาดว่าปี 2563 คนไทยจะเดินทางไปต่างประเทศ 11 ล้านคน จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่าจำนวนคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี  

 

ดังนั้น บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR จึงเน้นเพิ่มช่องทางการหารายได้ในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง และขยายสู่เซกเมนต์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่ม 

 

สิงห์ เอสเตท

 

ไม่หวั่นเทรนด์โลกชะลอตัว SHR เปิด 4 โมเดลหารายได้จากโรงแรมในต่างประเทศ 

เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ เล่าต่อว่า SHR มีโมเดลธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงในต่างประเทศ ทำให้โครงสร้างรายได้ตอนนี้แบ่งเป็น 60% จากโรงแรมที่ SHR บริหารผ่านสัญญาบริหารจัดการ (Hotel Management Agreement) 30% จากโรงแรมที่ SHR บริหารจัดการเอง และ 10% จากโรงแรมในสหราชอาณาจักรที่ SHR บริหารจัดการผ่านสัญญาแฟรนไชส์

 

ทั้งนี้ SHR เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรม 39 แห่ง โดยมีห้องพักรวม 4,647 ห้องใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, ฟิจิ, มอริเชียส, มัลดีฟส์ และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องและสร้างรายได้มั่นคงให้บริษัท โดยมีโมเดลการบริหาร 4 แบบ ได้แก่ 

 

  • โรงแรมที่ SHR บริหารจัดการเองทุกอย่าง (Self-Managed Model) เช่น สันติบุรี เกาะสมุย และพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ต ที่จังหวัดกระบี่ 
  • โรงแรมที่บริหารด้วยสัญญาแฟรนไชส์ (Franchise Model) ปัจจุบัน SHR มีพันธมิตรในระดับสากล เช่น Hard Rock, Hilton, Mercure และ Holiday Inn
  • โรงแรมที่ SHR เข้าไปบริหารตามสัญญาบริหารจัดการโรงแรม (Hotel Management Agreement Model) เช่น SHR มีสัญญา HMA กับแบรนด์ Outrigger ใน 4 ประเทศทั่วโลก
  • SHR จะพัฒนาแบรนด์โรงแรมขึ้นใหม่ (Home-Grown Brand Model) ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมของผู้ประกอบการอื่นในอนาคต เช่น แบรนด์ใหม่ชื่อ ‘SAii’ ที่เปิดตัวเป็นแห่งแรกในโครงการ Crossroads ที่ประเทศมัลดีฟส์

 

ขณะเดียวกัน SHR ยังเห็นโอกาสในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ผ่านการสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเอง (Experiential Travelling) ซึ่งทั่วโลกมีมูลค่า 8,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มมิลเลนเนียล โดย SHR จะขยาย Lifestyle Upscale Segment (4-4.5 ดาว) ซึ่ง SHR มีแบรนด์โรงแรมที่หลากหลายถึง 7 แบรนด์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต่างกัน

 

สิงห์ เอสเตท

 

SHR เตรียม M&A ซื้อโรงแรมต่างประเทศ ชี้ปี 2568 มี 80 โรงแรมในเครือ

จากเมื่อปี 2561 ธุรกิจโรงแรมและบริการสร้างรายได้รวม 34% ของสิงห์ เอสเตท ถือว่าเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ปลายปี 2562 นี้คาดว่าจะพา SHR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เสร็จสิ้น ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้ SHR สามารถลงทุนเชิงกลยุทธ์และการจัดการโรงแรมได้ดียิ่งขึ้น เช่น การลงทุนโครงการใหม่ การปรับปรุง หรือก่อสร้างโรงแรม ฯลฯ

 

ทั้งนี้หลังจาก SHR เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของสิงห์ เอสเตท ที่จะถือหุ้นใหญ่ไม่น้อยกว่า 58% ของหุ้นทั้งหมดใน SHR

 

ในขณะที่ปี 2563 สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าหมายเป็น Global Holding Company และปี 2568 SHR คาดว่าจะขยายโรงแรมในเครือเพิ่มขึ้นเป็น 80 แห่ง และมีห้องพักรวม 8,000 ห้อง ผ่านการลงทุนซื้อกิจการและความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับโลก

 

หลังจากนี้คงต้องจับตาการเข้าตลาดของ SHR ในช่วงสิ้นปี และติดตามก้าวต่อไปของสิงห์ เอสเตท ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising