ความคืบหน้าการขอถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร หรือ Brexit หลังจากวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการผ่านกฎหมาย Letwin Amendment ซึ่งกำหนดให้การให้ความเห็นชอบกับข้อตกลง Brexit จะถูกยับยั้งไปก่อนชั่วคราว จนกว่าข้อตกลงดังกล่าวจะผ่านกระบวนการนิติบัญญัติของสภาออกมาเป็นกฎหมายสำเร็จเสียก่อน จนทำให้รัฐบาลของ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ต้องรีบผลักดันให้ร่างกฎหมายเพื่อดีล Brexit ซึ่งมีความหนา 110 หน้ากระดาษเข้าสู่การพิจารณาของสภาเพื่อให้ทันสิ้นเดือนตุลาคม ตามกำหนดการที่จอห์นสันเคยลั่นวาจาไว้
แต่ล่าสุดอนาคตของ Brexit ก็กลับมาสู่ความไม่ชัดเจนอีกครั้ง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น สมาชิกสภาสามัญ หรือสภาล่าง (House of Commons) ของสหราชอาณาจักร ลงมติ 308 ต่อ 322 เสียง ไม่เห็นชอบกับกำหนดการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งระบุให้กฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติขั้นสุดท้ายจากสภาล่างภายในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาขุนนาง หรือสภาสูง (House of Lords) ในวันศุกร์ ซึ่งเท่ากับสมาชิกสภาล่างจะมีเวลาในการพิจารณากฎหมายนี้ราว 3 วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีมติไม่เห็นชอบกำหนดการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ สมาชิกสภาล่างก็ได้ลงมติรับหลักการกฎหมายฉบับนี้ไปด้วยคะแนน 329 ต่อ 299 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาล่างให้การสนับสนุนดีล Brexit หลังดีลในยุค เทเรซา เมย์ ถูกโหวตคว่ำถึง 3 ครั้ง และในการโหวตรับหลักการก็มีสมาชิกสภาจากพรรคเลเบอร์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านโหวตให้การสนับสนุนอยู่ 19 เสียง
หลังกำหนดการดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภา เจเรมี คอร์บิน ห้วหน้าพรรคเลเบอร์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่าตนขอเสนอให้จอห์นสันทำงานร่วมกับสมาชิกสภาล่างทุกคนเพื่อหาข้อตกลงเรื่องกำหนดการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ที่มีเหตุผล เพื่อให้สภาสามารถอภิปราย กลั่นกรอง และแก้ไขรายละเอียดของร่างกฎหมายฉบับนี้ได้
ส่วน บอริส จอห์นสัน ก็แถลงโดยมีใจความส่วนหนึ่งว่า เขาขอยกย่องสมาชิกสภาผู้ซึ่งมีข้อสงสัย ความค้างคาใจ และความยากลำบาก แต่ยังตัดสินใจพิจารณาเลือกผลประโยชน์ของชาติมาก่อนสิ่งอื่น แต่เขาก็ต้องแสดงความผิดหวังที่สภาแห่งนี้โหวตให้กำหนดการต้องถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง และจะพักการการออกกฎหมายนี้ไว้จนกว่ารัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะขยายเวลา Brexit ออกไปอีกครั้งหรือไม่
“เรากำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนต่อไป” จอห์นสันกล่าว
ขณะที่ปฏิกิริยาจากสหภาพยุโรปแสดงให้เห็นท่าทีที่อาจจะมีการขยายเวลา Brexit ออกไป โดย โดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป ทวีตข้อความระบุว่า เพื่อป้องกัน No-Deal Brexit ตัวเขาจะแนะนำให้สมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ชาติ (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) ตอบรับคำขอเลื่อนกำหนดการ Brexit ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้หากสหภาพยุโรปยอมเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปเป็นเดือนมกราคม ปี 2020 ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปรอบใหม่ในสหราชอาณาจักรขึ้นหรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
