ตราบใดที่ร่างกายได้รับแคลอรีต่อวันในปริมาณที่เหมาะสม จะส่งผลไม่ให้น้ำหนักขึ้น แม้จะกินดึกหรือหลายมื้อแค่ไหนก็ตาม นี่คือสิ่งที่หลายคนเคยได้ยินเพื่อคุมน้ำหนัก ทว่าครั้งนี้ใครที่อยากลดน้ำหนักให้ได้ผลดีจริง อาจต้องปรับเปลี่ยนเทคนิคกันเสียใหม่ เพราะล่าสุดนักโภชนาการออกมาแนะนำว่า การกินมื้อเช้าให้เยอะที่สุด จะส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักมากกว่าการกินเฉลี่ยเท่ากันทุกมื้อไปจนถึงช่วงเย็น
การกินมื้อเช้าให้อิ่มไปเลย นอกจากทำให้เราไม่กินจุกจิกระหว่างวัน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายคนลดน้ำหนักไม่สำเร็จเสียที นักโภชนาการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกข้อ คือเป็นเรื่องของ ‘นาฬิกาชีวภาพ’ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ โดยใช้แสงสว่างรอบตัวเราเป็นเครื่องกำหนด เช่น การหลับและตื่นนอน การหลั่งฮอร์โมน รวมถึงระบบเผาผลาญของร่างกาย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่กินมื้อดึกจึงไม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากการเผาผลาญจะเริ่มทำงานน้อยลงเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
ความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยผลวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี 2013 ซึ่งทำการศึกษาในผู้ที่มีโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน จำนวน 420 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่กินมื้อเช้าและมื้อกลางวันก่อนบ่าย 3 โมง กับกลุ่มที่กินมื้อสายและมื้อกลางวันหลังบ่าย 3 โมง โดยคนกลุ่มหลังจะกินอาหารเช้าปริมาณน้อยกว่า หรือข้ามมื้อเช้าบ่อยๆ อีกด้วย และผลการศึกษาตลอดระยะเวลา 20 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มที่กินมื้อดึกลดน้ำหนักได้น้อยกว่ากลุ่มที่กินมื้อเช้าประมาณ 2.3 กิโลกรัม และน้ำหนักลดลงช้ากว่ามาก ทั้งที่ได้รับสารอาหารและแคลอรีในปริมาณใกล้เคียงกัน
ด้วยเหตุนี้ นักโภชนการจึงแนะนำผู้ที่อยากควบคุมน้ำหนักว่า ไม่ควรข้ามอาหารมื้อเช้า ควรรับประทานให้เยอะเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นให้เลื่อนมื้อกลางวันขึ้นมาให้เหมาะสมกับเวลา เพื่อที่จะกินมื้อเย็นไม่ดึกจนเกินไป โดยเราอาจลดปริมาณสารอาหารประเภทแป้งในมื้อเย็นให้น้อยลงได้ด้วย หากได้รับปริมาณที่เพียงพอต่อวันในมื้ออื่นๆ แล้ว
แต่จะจริงหรือไม่ ลองกันแล้วมาบอกเราด้วย และอย่าลืมออกกำลังกายกันด้วยนะ
อ่านเรื่องนักโภชนาการชี้ กินพิซซ่าเป็นอาหารเช้า สุขภาพดีกว่ากินซีเรียล ได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: