ต้องยอมรับเรื่องหนึ่งว่า The TOYS หรือทอย-ธันวา บุญสูงเนิน คือหนึ่งในศิลปินชายที่น่าจับตามองที่สุดในพุทธศักราชนี้ ทั้งในแง่ของศักยภาพทางดนตรี ความโด่งดัง บรรดาแฟนคลับที่รักเขา และคุณรู้หรือเปล่าว่าทอยคือศิลปินที่เติบโตจาก Bedroom Studio หรือการผลิตผลงานด้วยตัวเอง เป็นอิสระมาก่อน และเขาใช้เวลาเพียง 3 ปีเศษเท่านั้นก่อนจะกลายมาเป็นศิลปินชายแถวหน้าที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของวงการเพลงไทยในปัจจุบัน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 กันยายน) คือวันที่เขามีนัดกับแฟนๆ ราว 5,000 คนที่ไบเทค บางนา ฮอลล์ 105 กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ชื่อว่า The TOYS Loy on Mars กับคอนเซปต์ที่จะพาทุกคนร่วมเดินทางสู่ดาวอังคารของทอย ที่ต้องบอกตรงนี้ว่านี่เป็นประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตศิลปินไทยที่หวือหวาที่สุดครั้งหนึ่งในอุตสาหกรรมดนตรีบ้านเรา
คอนเสิร์ตเริ่มต้นอย่างเรียบง่ายกับเพลง 04.00 ที่เขาค่อยๆ ปรากฏตัวในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนเวทีที่คล้ายฉากในหนังไซไฟรสนิยมดี เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมได้อย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังมีการแจกสายรัดข้อมือที่มีไฟติดตามจังหวะเพลง สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับผู้ชมได้อีกด้วย ทำให้เราคิดถึงตอนที่วง Coldplay มาเมืองไทยเชียว
โชว์ที่น่าพูดถึงที่สุดโชว์หนึ่งคือเพลง แสงไฟ กับการเปิดตัวทอยกับคนดูอย่างเป็นทางการจริงๆ บนเวที พร้อมอินโทรเล่นใหญ่กับไฟจำนวนมหาศาลที่หากการไฟฟ้านครหลวงมาเห็นอาจต้องคิดค่าไฟเพิ่ม เพราะมันเยอะ ใหญ่ และมีพลังงานที่ดีมากในการเปิดคอนเสิร์ต!
ก่อนที่จะขนเพลงของเขาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่มาร้องอย่างบันเทิงใจทั้ง ของว่าง, ขอโทษที่เป็นแบบนี้, ไม่รับสาย, จดหมาย, พูดไม่ออก, ลาลาลอย (100%) หรือ หน้าหนาวที่แล้ว ที่มีความพิเศษเล็กๆ คือให้ผู้ชมร่วมร้องกันตั้งแต่ต้นจนจบ และที่เซอร์ไพรส์แฟนๆ มากคือเพลง ท้าเล ที่ทีมนักดนตรีของเขาวางเครื่องดนตรีแล้วออกมาวาดลวดลายการเต้นแบบงงๆ จนเรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมไปได้มากโข
การดีไซน์เวทีของคอนเสิร์ตนี้นับว่าอยู่ในโปรดักชันที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายทีเดียว ทั้งเวทีหลักที่มีลูกเล่นแพรวพราว และเวทีรองกลางฮอลล์ที่มีไฟแท่งเล่นระดับ ส่งเสริมความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่ในอวกาศได้อย่างดี ซึ่งล้วนเป็นงานช้างครั้งหนึ่งของ พล หุยประเสริฐ ที่เป็นผู้ดูแลส่วนนี้ทั้งหมด
แขกรับเชิญคนแรกที่ออกมาแล้วเซอร์ไพรส์แฟนๆ อย่างมากคือ นะ-รัตน จันทร์ประสิทธิ์ หรือ นะ นักร้องนำจากวง Polycat ที่ออกมาพร้อมเพลง มันเป็นใคร และ เป็นเพราะฝน ที่ช่วงโซโลกีตาร์นั้นทอยก็ได้ร่วมแจมขณะนั่งในท่วงท่าสบายๆ บนยานอวกาศของเขาด้านบน และทั้งสองคนก็ร่วมร้องด้วยกันอีกเพลงอย่าง ให้เธออภัย ที่เข้าปากของนะอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนแขกรับเชิญอีกคนอย่าง กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ก็ออกมาร่วมร้องเพลง นอนได้แล้ว กับทอย ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการทำงานกับทอยที่เขาบอกว่าเพลงนี้เปลี่ยนชีวิตของเขาในเรื่องการแรป ซึ่งทอยมีส่วนร่วมในการช่วยดีไซน์ให้แตกต่างไปจากวิธีการร้องเดิมๆ ที่เขาเคยทำ
ไฮไลต์ของคอนเสิร์ตที่ทุกคนฮือฮาคือโชว์ปิด ก่อนฤดูฝน ที่ทอยโซโลกีตาร์ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างชุ่มฉ่ำ ความหลุดของการโซโลเกือบ 3 นาทียาวๆ ที่แทบไม่ได้สนถูกผิดอะไรอีกแล้วคืออากัปกิริยาที่ส่งพลังงานให้คนดูอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะหายตัวไปแบบไม่ได้ร่ำลาในหมอกควันอย่างงุนงง ปล่อยให้ผู้ชมเคว้งคว้างอยู่สักพักจนไฟทั้งฮอลล์สว่างขึ้น ผู้ชมก็ยังคงสงสัยว่าทอยหายไปไหน ซึ่งถือว่าค่อนข้างอิมแพ็กกับผู้ชมและสร้างโชว์ให้กลายเป็นที่จดจำไปโดยปริยาย
คอนเสิร์ต The TOYS Loy on Mars นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของศิลปินและค่าย What The Duck ที่ทอยสังกัดอยู่ เพราะท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของวงการเพลงไทยที่เกิดศิลปินอิสระมากมายหรือค่ายเล็กๆ ที่ต่างมีหนทางในการเติบโตของตัวเอง นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแรงของค่ายเพลงเป็ดค่ายนี้ว่าพวกเขาก็มีความสามารถในการสร้างงานโปรดักชันใหญ่ขนาดนี้ได้เช่นกัน
ในฐานะผู้ชมและผู้ที่คลุกคลีกับคอนเสิร์ตนี้มาตั้งแต่ต้น ทุกสิ่งที่ผู้ชมได้เห็นคือความตั้งใจของทีมงานทุกๆ คนอย่างแท้จริง และการล่องลอยบนดาวอังคารของทอยในครั้งนี้ก็ทำให้ผู้ชมได้เห็นว่านอกเหนือจากเสน่ห์ที่แฟนๆ หลงรักแล้ว เขาคือศิลปินที่มอบงานสู่ผู้ชมอย่างเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดคนหนึ่ง
ภาพ: What The Duck
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์