ธุรกิจรีเทลในโลกปัจจุบันจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีการสื่อสารในยุค Internet of Things มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มหาศาลเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภค โดยแนวคิดและระบบปฏิบัติการที่สามารถเชื่อมต่อทุกสิ่งบนโลกใบนี้เข้าไว้ด้วยกันเป็นเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ถือเป็นเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาธุรกิจรีเทลในโลกอนาคต
‘สยามพิวรรธน์’ เป็นอีกรายที่หยิบแนวคิดนี้มาบริหารศูนย์การค้าที่อยู่ภายใต้ 3 แห่งหลัก ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม โดยสยามพิวรรธน์ได้ลงทุนด้านระบบสารสนเทศทางการตลาดระหว่างปี 2561-2563 ด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อใช้ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่จาก 4 ศูนย์การค้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังได้ปรับระบบโครงสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี (IT Infrastructure) และการบริหารจัดการข้อมูล (Data Management) ทั้งหมด
ล่าสุดได้มีการเปิดตัว OneSiam Application เป็นการรวบรวมรายละเอียดร้านค้าแบรนด์ดังที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของสยามพิวรรธน์ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยตั้งเป้าจะมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้กว่า 3 แสนคนภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งจะช่วยในการขยายฐานลูกค้า
แบ่งเป็นวัย 25-45 ปีมากกว่า 50% รองลงมาเป็นอายุน้อยกว่า 25 ปีอีก 35% และมากกว่า 45 ปีประมาณ 15% ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านใจกลางเมืองและชื่นชอบการช้อปปิ้ง ตอนนี้เปิดให้บริการมาราว 2 สัปดาห์ มีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า 30 ร้านค้า และมี 13,000 สิทธิ์ในการให้บริการลูกค้า
เบื้องต้นเวอร์ชันที่ออกไปยังเป็นเฟส 1 ซึ่งใช้เป็นช่องทางสำหรับโปรโมตโปรโมชันและร้านค้า เฟสที่ 2 จะทำให้ภายในแอปฯ สามารถทำทางไปหาร้านค้าได้ ซึ่งจะเริ่มภายปีนี้ และเฟสสุดท้ายจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดูสินค้าในแอปฯ และสั่งซื้อไปส่งที่บ้านได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์