ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งการให้กระทรวงการคลังออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ (18 กันยายน) หลังรัฐบาลกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า คำสั่งที่ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง รับมาจากทรัมป์นั้น ประกอบด้วยมาตรการอะไรบ้าง หรือพุ่งเป้าไปที่บุคคลใดเป็นการเฉพาะหรือไม่
แต่ทรัมป์เผยว่า จะมีการประกาศรายละเอียดในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่ทำเนียบขาว กระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเมื่อวานนี้ หลังสหรัฐฯ ประกาศจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านแทนการใช้กำลังทหาร ซึ่งคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้บางส่วน โดยสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 58 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.86% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 63.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.63%
แม้โอกาสใช้กำลังทหารมีน้อยลง แต่กองทัพสหรัฐฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยที่กองทัพอากาศพร้อมส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดไปยังภูมิภาคดังกล่าวเพิ่มเติม หากได้รับคำสั่ง
ทั้งนี้สหรัฐฯ เชื่อว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงน้ำมันในเมืองอับกาอิกของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ถึงแม้กลุ่มฮูตีในเยเมนจะอ้างว่าเป็นผู้บังคับโดรนโจมตีแหล่งน้ำมัน เพื่อตอบโต้กองทัพซาอุฯ ที่ส่งทหารเข้าไปแทรกแซงสงครามกลางเมืองในเยเมน
อย่างไรก็ตาม อิหร่านยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เป็นที่แน่นอนว่า ทรัมป์จะไม่พบกับประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่านในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติที่นิวยอร์กในสัปดาห์หน้า หลังทรัมป์ยืนยันว่ายังไม่พร้อม เช่นเดียวกับโรฮานีก็ยังไม่ต้องการพบทรัมป์ในเวลานี้เช่นกัน
เมื่อวานนี้ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปประชุมกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือถึงเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น โดยทั้งสองเห็นพ้องว่าการโจมตีโรงน้ำมัน ไม่เพียงแต่ทำลายผลประโยชน์แห่งชาติของซาอุฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อชาวอเมริกันที่อาศัยหรือทำงานในซาอุดีอาระเบียด้วย
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของอิหร่าน เตือนว่า แผนคว่ำบาตรของทรัมป์มีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง และไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: