กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรายงานว่า สำนักงานบริหาร ทช.ที่ 10 (ตรัง) รับแจ้งจาก สมศักดิ์ พันธุเมศ กรณีพบซากพะยูนลอยในทะเลระหว่างเกาะยาและเกาะไหง จังหวัดกระบี่ สภาพซากมีลำไส้ทะลักออกมา ไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากลำไส้ทะลักออกมาปิดบริเวณหน้าท้อง
เมื่อทราบเรื่อง ทางกรมฯ ได้เร่งนำเรือออกไปค้นหาตั้งแต่เวลา 12.00-15.30 น. ซึ่งช่วงดังกล่าวมีฝนตกและคลื่นลมแรง
จากความพยายามในการค้นหาตามพื้นที่ที่ได้รับแจ้งมากกว่า 3 ชั่วโมง ก็ไม่พบซากพะยูน จึงยุติภารกิจการค้นหา แต่จากภาพซากพะยูนตามที่ผู้พบได้ถ่ายไว้ คาดว่าพะยูนตัวนี้น่าจะมีความยาวประมาณ 150 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม และคาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5-7 วัน
ทั้งนี้ ได้ประสานเครือข่ายในพื้นที่ชายฝั่งให้ช่วยกันตรวจสอบตามพื้นที่ชายหาดและในทะเล หากพบเจอซาก ขอให้แจ้งมาที่กรมในพื้นที่ เพื่อดำเนินการต่อไป
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กตนเองว่า มีรายงานพะยูนตายอีกแล้วครับ พบที่กลางทะเลตรัง นับเป็นตัวที่ 19 ของปีนี้ ยังไม่ได้นำเข้าฝั่ง จึงยังไม่ทราบสาเหตุครับ
ปกติพะยูนตาย 10-12 ตัวต่อปี แต่ปีนี้ยังไม่ถึง 10 เดือน ตายไปแล้ว 19 ตัว ตัวเลขนี้คิดเป็นเกือบ 10% ของพะยูนที่ตรังและกระบี่ (200 ตัว) มากเกินกว่าการเกิดทดแทนได้ตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นปีนี้จำนวนพะยูนเราอาจลดลง หลังจากค่อยๆ เพิ่มมาในระยะหนึ่ง
ทราบดีว่าทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ แต่เราคงต้องการอะไรที่พลิกโฉม ยกระดับทั้งหมด โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยสนับสนุนให้พี่น้องชายฝั่งอยู่ร่วมกับพะยูนได้
มาเรียมโปรเจกต์จะเข้าคณะกรรมการทะเลแห่งชาติตอนปลายเดือน หวังว่าทุกอย่างคงเป็นไปด้วยดี เพราะนี่แหละเป็นความหวังที่น่าจะเป็นจริงได้เร็วที่สุดของเรา
ภาพ: เฟซบุ๊ก Bank Somsak Panthumas
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล