หลังจากที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนปฏิรูป ได้ยื่นต่อ กกต. ขอเลิกกิจการพรรคการเมือง โดยให้เหตุผลว่ากรรมการบริหารพรรคมีภารกิจจำนวนมาก ซึ่งเตรียมหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่นั้น
ล่าสุด สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า กรณี ไพบูลย์ นิติตะวัน ยุบพรรคตัวเอง แล้วประกาศจะไปเป็น ส.ส. ของพลังประชารัฐ
ถ้าเป็นสมัยก่อน บัตรเลือกตั้งสองใบ เขาได้เป็นบัญชีรายชื่อจากบัตรเลือกตั้ง ก็ถือว่ามีสถานะเป็น ส.ส. แล้ว เมื่อยุบพรรคก็ไปหาพรรคใหม่อยู่ได้ใน 60 วัน
แต่กติกาใหม่ บัตรเลือกตั้งใบเดียว จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อผูกอยู่กับคะแนนเขตที่เลือกพรรคนั้น ตนจึงมีความเห็นว่า
1. โอนคะแนนไปให้พรรคใหม่ไม่ได้ เพราะตอนประชาชนกาบัตร เขาไม่ได้กาให้พรรคใหม่
2. กกต. ต้องคำนวณ ส.ส. บัญชีใหม่ทั้งระบบ โดยตัดคะแนนพรรคไพบูลย์ออก และจัดสรร ส.ส. บัญชีรายชื่อจาก ส.ส. ที่พึงจะมีแต่ละพรรคใหม่
3. ไพบูลย์ต้องเลือกไปอยู่พรรคที่ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพิ่ม (หากเขารับ) และคงสถานะเป็น ส.ส. (แต่หากไม่รับ ความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลง)
4. ไม่ควรจบง่ายๆ ว่ายุบแล้วไปอยู่พรรคไหนก็ได้ทันที เพราะเช่นนั้นบรรดาพรรค 1 เสียงทั้งหลายจะทำตาม เพื่อหลีกความเสี่ยงในความไม่แน่นอนที่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งใหม่ใน 1 ปี หลังจาก 24 มีนาคม 2562 ว่าอาจถูก กกต. คำนวณใหม่ และหมดสภาพการเป็น ส.ส. เช่นเดียวกับกรณีพรรคไทยรักธรรม
เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องที่สังคมต้องจับตามอง และดูแนวการวินิจฉัยจาก กกต. ชุดปัจจุบันว่าจะมีมติอย่างไร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า