บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ของปี (เม.ย.-มิ.ย.) โดยพบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,234 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นผลจากการเติบโตของ ‘ลูกค้ามือถือ’ ที่เอไอเอสยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้มากที่สุด
ประกอบกับเน็ตบ้าน AIS Fibre ก็ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้เอไอเอสยังเดินหน้าเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ ทั้งการพัฒนาธุรกิจลูกค้าองค์กรจากมืออาชีพโดย CSL (ซีเอส ล็อกซอินโฟ) และทดสอบการใช้งานเทคโนโลยี 5G Use Case ต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เอไอเอสยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ และประกาศจ่ายเงินปันผล 3.78 บาทต่อหุ้นในวันที่ 3 กันยายน 2562 ที่จะถึงนี้
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ในวันนี้ ไม่เพียงแต่เฉพาะธุรกิจโทรคมนาคมที่ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ การสร้าง Business Transformation ในยุค Digital Disruption ต้องอาศัยทั้งประสบการณ์, การวางแผน และความสามารถของบุคลากร ให้พร้อมรับแรงกระแทกจากปัจจัยรอบด้านอย่างมั่นคงและแข็งแรง
“โดยตลอดช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เอไอเอสยังคงมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกคน ในฐานะผู้นำ Digital Life Service Provider ได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมๆ กับการเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจดิจิทัล พร้อมผนึกกำลังกับอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และยึดหลักดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มมาโดยตลอด”
ในฐานะผู้นำตลาดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ ปัจจุบันเอไอเอสมียอดผู้ใช้งานมากกว่า 41.5 ล้านเลขหมาย จำแนกเป็นสัดส่วนลูกค้าที่ใช้ 4G สูงถึง 66% และมีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 11.5 กิกะไบต์/เดือน จาก 8.9 กิกะไบต์/เดือน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้ต่อเลขหมาย ARPU (Average Revenue per User) เฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นเป็น 263 บาท/เดือน ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre ยังคงมีรายได้เติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตกว่า 26% ด้วยคุณภาพโครงข่ายและงานบริการที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยกลยุทธ์ Fixed Mobile Convergence ที่ดึงดูดใจลูกค้า จนทำให้ในปัจจุบัน AIS Fibre มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 855,400 ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ และยังคงเน้นย้ำเป้าหมายจำนวนลูกค้า 1 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ เอไอเอสยังคงคาดการณ์รายได้การให้บริการเติบโตทั้งปีที่ 4-6% และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ทั้งปีใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 42-44% พร้อมจัดสรรงบลงทุน 20,000-25,000 ล้านบาทสำหรับลงทุนทั้งในโครงข่าย 4G และไฟเบอร์ นอกจากนี้เอไอเอสยังวางรากฐานต่อยอดการเติบโตในอนาคต โดยเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านไปยังเทคโนโลยี 5G ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ, รับจัดสรรคลื่นความถี่ 700MHz โดยจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในเดือนตุลาคมปีหน้า, ขยายตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร และพัฒนาบริการด้าน IoT เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารสรุปผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2562 ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จะพบว่า หากนำกำไรสุทธิ (ไม่รวมรายการพิเศษ) ที่ 8,234 ล้านบาท มาหักลบกับ ‘เงินสำรองพนักงานตามกฎหมาย (หลังภาษี)’ 509 ล้านบาทแล้ว เอไอเอสจะมีกำไรสุทธิทั้งหมด 7,725 ล้านบาท ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า