แม้ประเด็นความบาดหมางจากกรณีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำห้ามบริษัทในประเทศดำเนินธุรกิจด้วยจะสร้างผลกระทบในเชิงลบให้กับแบรนด์ผู้พัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคม และสมาร์ทโฟนจากจีนอย่าง ‘หัวเว่ย’ อยู่พอสมควร แต่ดูเหมือนว่าในเชิงภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีแรก 2019 ที่ผ่านมา หัวเว่ยยังทำผลงานได้น่าพอใจเป็นอย่างมาก
จากการเปิดเผยผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกในวันนี้ (30 ก.ค.) พบว่าหัวเว่ยมีรายรับรวมของทั้งบริษัทที่ประมาณ 401,300 ล้านหยวนหรือราว 1.8 ล้านล้านบาท ถือเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018 ที่ 23.2% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจากรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 8.7% หรือราว 32,000 ล้านหยวน
เมื่อจำแนกตามประเภทและหมวดหมู่ธุรกิจจะพบว่า ธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายการสื่อสาร (Carrier Business) และงานด้านไอทีของหัวเว่ยมีรายรับถึง 146,500 ล้านหยวน เทียบเท่าอัตราส่วน 37% ของรายได้บริษัททั้งหมด ณ ปัจจุบัน โดยมีการเปิดเผยว่าหัวเว่ยได้รับสัญญาพัฒนาโครงข่าย 5G เชิงพาณิชย์มากกว่า 50 แห่งทั่วโลกแล้ว
ด้านธุรกิจองค์กร (Enterprise Business) ทั้งงานด้านระบบคลาวด์ข้อมูล, AI, ศูนย์ข้อมูลหรือ IoT มีรายรับรวมทั้งสิ้นที่ 31,600 ล้านหยวน แต่ที่น่าสนใจคือธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Consumer Business (นับรวมแบรนด์ลูก ‘Honor’) มีรายรับรวมทั้งสิ้นที่ 220,800 ล้านหยวน หรือราว 55% ของรายได้หัวเว่ยทั้งหมดในปัจจุบัน โดยมียอดการจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ประมาณ 118 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ทั้งแท็บเล็ต, แล็ปท็อปหรืออุปกรณ์สวมใส่ประเภท Wearables ก็ยังส่งสัญญาณเชิงบวก และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจไม่แพ้กัน สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางโดยรวมของบริษัทหัวเว่ยที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เหลียงฮัว (Liang Hua) ประธานบริษัทหัวเว่ยบอกว่า รายรับของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วจนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเช่นนี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้วางรากฐานที่สำคัญในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งในระยะยาวมันจะส่งผลให้การเติบโตของบริษัทโดยรวมยังอยู่ในทิศทางที่ดี แม้ว่าจะถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำก็ตาม
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางของเราจะไม่มีอุปสรรค การถูกขึ้นบัญชีดำย่อมส่งผลกระทบกับหัวเว่ย โดยเฉพาะจังหวะความเร็วของการเติบโตทางธุรกิจในระยะสั้นของบริษัท
“แต่เรายังคงเชื่อมั่นในอนาคตข้างหน้าของหัวเว่ย และจะยังลงทุนพัฒนาตามแผนการที่ได้วางเอาไว้ (รวมถึงงบ R&D ปีนี้ที่คาดว่าน่าจะสูงถึง 120,00 ล้านหยวน) เราจะสามารถผ่านความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ นี้ไปได้แน่นอน และเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหัวเว่ยจะก้าวเข้าสู่การเติบโตในสเตปต่อไปหลังผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ไปได้ในที่สุด”
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ หัวเว่ยยังเตรียมแพลนจะวางจำหน่าย ‘Mate 20 X’ สมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายรุ่นแรกที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยี 5G ในตลาดประเทศจีนอย่างเป็นทางการอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: