ทุกวันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่บริโภคมากน้อยแค่ไหน?
ย้อนไปหลายปีก่อนหน้า เมื่อไล่สายตาไปตามเชลฟ์สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต อาหารกึ่งสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยวในแพ็กเกจจิ้งสวยงามถูกจัดวางเรียงรายให้เราได้เลือกตามความพอใจ โดยแทบไม่รู้ว่าสิ่งที่เลือกไปนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เหมาะสมกับร่างกายหรือไม่ เพราะรายละเอียดโภชนาการ ความหวาน มัน เค็ม ถูกบอกเล่าด้วยตัวอักษรเล็กจิ๋วที่เบียดกันอยู่ด้านหลังบรรจุภัณฑ์ ยากต่อการอ่านและทำความเข้าใจของผู้บริโภค สุดท้ายการเลือกทานสิ่งที่ไม่เข้าใจก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพมากมาย
แต่ปัจจุบัน ภาครัฐได้ออกมาตรการที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีโอกาสเปรียบเทียบและเลือกสรรอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการมากขึ้น อาทิ การจัดทำสัญลักษณ์โภชนาการ ‘ทางเลือกสุขภาพ’ (Healthier Choice) หรือการติดฉลากโภชนาการแบบ GDA (Guideline Daily Amount) แสดงค่าพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม ที่ด้านหน้าบรรจุภัณฑ์ขนมต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสังเกตและอ่านได้ง่ายขึ้น ก่อนที่จะเลือกหยิบอะไรเข้าปาก
ประกอบกับกระแสรักสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างแข่งขันกันผลิตอาหารที่มีประโยชน์ โซเดียมต่ำ น้ำตาลน้อย คุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อจูงใจผู้บริโภคแทนการแข่งขันด้วยองค์ประกอบอื่นๆ ผลดีก็กลับมาสู่ทุกคน
ในแวดวงประกันชีวิตและสุขภาพก็ไม่ต่างกัน ก่อนหน้านี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับประกันและตัวแทนขายประกัน จากการโฆษณาที่มักสื่อสารเฉพาะแง่ดี ผลประโยชน์เด่น หรือเน้นสร้างอารมณ์ร่วม แล้วค่อยพ่วงท้ายด้วยดอกจันเล็กๆ ที่มีเงื่อนไขยาวเหยียดจนผู้บริโภคเผลอมองข้ามรายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้ เมื่อซื้อประกันไปแล้วเกิดปัญหาเวลาเคลม ผลร้ายก็ย้อนกลับมาสู่แบรนด์และธุรกิจโดยรวม กลายเป็นอุปสรรคในการเติบโตของธุรกิจ และทำให้ผู้บริโภคเสียโอกาสที่จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ที่เหมาะสม
จนล่าสุด แคมเปญโฆษณาของ ‘อลิอันซ์ อยุธยา’ ได้แสดงความกล้าที่จะบอกทุกรายละเอียดของแผนประกันตัวท็อปอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา กล้ากางเงื่อนไขที่เรามักจะเห็นเป็นตัวอักษรเล็กๆ ตรงมุมล่างของจอ ขยายให้เป็นจุดเด่นที่ฟาดสายตาผู้ชมอย่างชัดเจนตั้งแต่วินาทีแรกๆ ของหนังโฆษณา ชี้ให้เห็นข้อจำกัดต่างๆ แล้วค่อยตามด้วยด้านดี หรือเหตุผลรองรับเงื่อนไขที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคเอง
อย่างในหนังโฆษณาตัวแรก ‘ประกันมะเร็งหายห่วง’ ที่มาพร้อมข้อมูลจัดเต็ม
- จ่ายน้อยถ้าเสียชีวิต…เพราะอยากทุ่มเทให้กับการรักษา จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงด้วยวงเงินหลักล้านขึ้นไป ตั้งแต่วันแรกที่ตรวจพบจนถึงวันสุดท้ายที่รักษา ไม่ว่าคุณจะเป็นมะเร็งระยะไหนก็ตาม
- หากเคยเป็นมะเร็งมาก่อน ไม่สามารถทำได้…แต่หากยังไม่เคยเป็น ‘ประกันมะเร็งหายห่วง’ คุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 85 ปี หรือจนกว่าวงเงินจะหมด
- จำกัดค่าห้องสูงสุดวันละไม่เกิน 3,000 บาท…เพื่อจัดเต็มค่ารักษา ทั้งการผ่าตัด การคีโม การฉายแสง โดยไม่ให้คุณต้องจ่ายเบี้ยสูงเกินไป
ตามมาด้วยหนังโฆษณาตัวที่ 2 ‘ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า’ ที่ยังคงเน้นย้ำประเด็นเดียวกัน พร้อมการบอกข้อมูลละเอียดยิบ
- เบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ…แต่คุ้มครองยาวนานถึงอายุ 85 ปี
- จำกัดค่าห้อง ค่ายากลับบ้าน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้…แต่พร้อมจ่ายค่ารักษาสูงสุด 10 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมทั้งค่ายา ค่าเอ็กซเรย์ ค่าห้องแล็บ ค่ากายภาพบำบัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ฯลฯ
แถมยังปิดท้ายด้วยประโยคเด็ดอย่าง “เงินคุณ สุขภาพคุณ” เพื่อกระตุ้นความสำคัญในการทำความเข้าใจเงื่อนไขและผลประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับจากการทำประกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนอาจละเลย หรือได้รับการอธิบายไม่ชัดเจนในตอนซื้อ
เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นแต่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และกล้าเปิดเผยให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้รับรู้ คราวนี้ก็อยู่ที่เราแล้วล่ะ ว่าพร้อมจะทำความเข้าใจ และเลือกสรรสิ่งเหมาะสมกับตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน
