สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า เศรษฐกิจของประเทศได้ขยายตัวต่อเนื่องยาวนานที่สุด 121 เดือน หรือกว่า 10 ปีตลอดช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีในระดับประวัติศาสตร์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP เติบโตกว่ายุคดอทคอม (1991-2001) ถึง 25% ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3.6% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ขณะนี้ทั่วโลกต่างจับตาดูเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่าจะขยายตัวต่อเนื่องแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน แม้ที่ผ่านมาก็มีสัญญาณบางประการที่อาจก่อให้เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจอยู่บ้าง แต่ตลาดทุนก็ยังคงคึกคักอยู่ โดยดัชนี S&P500 ทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดอีกรอบ สอดรับกับความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนได้ผ่อนคลายลงเมื่อผู้นำทั้งสองประเทศประกาศ ‘สงบศึก’ ชั่วคราว และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง สะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ กลับไปต่ำกว่า 2% อีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา
อีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจของพญาอินทรีคือ ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนักวิเคราะห์มองว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25-0.5% ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม บางส่วนยังกังวลว่ากรอบเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจช้ากว่าที่หวังไว้ และอาจไม่ทันท่วงทีช่วงขาลงของเศรษฐกิจ จึงเป็นแรงกดดันที่ยังมีต่อกันระหว่างภาคธุรกิจ รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ และเฟด ต้องจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนมิถุนายนว่าจะประกาศในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่ หลังจากตัวเลขเดือนพฤษภาคมเป็นที่น่าผิดหวัง ด้วยตัวเลขการจ้างงาน 7.5 หมื่นตำแหน่งเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: