สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรีเป็นบทบาทและหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งพรรคการเมืองก็ต้องเสนอชื่อบุคลากรที่จะร่วมคณะรัฐมนตรีให้นายกรัฐมนตรี และการตัดสินใจต้องเป็นของนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดยจะต้องคำนึงว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไร ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดมาทำงาน และเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องมาดูเรื่องนโยบายร่วมกัน ขณะเดียวกันวันนี้ประเทศต้องมีการขับเคลื่อน ทุกคนก็พยายามที่จะส่งคนมาให้นายกรัฐมนตรีได้เลือก
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามจับจองโต๊ะเก้าอี้จนเกิดการโต้เถียงกันไปมานั้นมองว่าเป็นธรรมชาติของการเมืองซึ่งตนเองก็ไม่ได้สนใจและติดตามข่าวเหล่านั้นสังเกตได้จากใบหน้าที่สดชื่นมากเพราะไม่เคยเข้าไปเปิดอ่านการแสดงความเห็นเหล่านั้นเลยเพราะอ่านมากก็ไม่สดชื่นซึ่งส่วนตัวเห็นว่าวันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าไปสู่จุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆจึงอยากให้ทุกคนสามัคคีกันไว้รอนายกรัฐมนตรีฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรีให้เวลานายกรัฐมนตรีเลือกให้ดีที่สุดและเชื่อว่านักการเมืองก็มีความปรารถนาดีกับประเทศทั้งนั้น
สมคิดยังกล่าวอีกว่าการจัดคณะรัฐมนตรีใหม่ครั้งนี้ควรเปิดให้โอกาสคนหนุ่มสาวเข้ามาทำงานให้มากขึ้น ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอายุมากควรอยู่เป็นพี่เลี้ยงน่าจะดีที่สุด เพราะคนมีอายุมากก็จะมีประสบการณ์ที่ดี แต่ขึ้นอยู่ที่สุขภาพของแต่ละคนด้วย ซึ่งตนเองทำงานมา 10 ปีก็ได้รับใช้บ้านเมืองมาพอสมควรแล้วจึงไม่มีความหวงแหนตำแหน่งใดเลยถ้าจะอยู่ก็ต้องทำประโยชน์ให้บ้านเมืองมากที่สุด
ส่วนกรณีที่ชื่อของตนเองไม่เคยหลุดจากโผคณะรัฐมนตรีเลยนั้นย้ำว่าเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรียังเห็นศักยภาพอยากให้มาร่วมทำงานต่อสมคิดกล่าวว่าทุกอย่างอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจ
ส่วนที่มีกระแสข่าวและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดโควตาคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้มีเก้าอี้ของตนเองล็อกไว้แล้วนั้น ยืนยันว่าตนเองเป็นคนไม่มีโควตา ที่เข้ามาทำงานแต่ละครั้งก็ไม่ได้มารับใช้ใคร แต่มาทำงานให้กับบ้านเมือง ส่วนที่ตนเองสนับสนุนพลเอก ประยุทธ์ ครั้งนี้เพราะเห็นว่าจะเป็นคนที่ดูแลประเทศได้ ซึ่งทุกคนที่เข้ามาก็จะต้องดูแลประเทศชาติทั้งนั้น รวมถึงนักการเมืองด้วย ทุกคนต้องทำเพื่อบ้านเมือง แต่หากเข้ามาแล้วทำงานไม่ได้ ประเทศก็จะลำบาก ซึ่งหากทุกคนคิดเช่นนี้ก็จะเป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันทั้งนั้น ที่เห็นขัดแย้งกันหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันเดี๋ยวก็ดีกันเอง เพียงแต่อย่าไปอ่านข่าวให้มากและนำเสนอข่าวที่มีความขัดแย้งเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์