เพิ่งเสร็จสิ้นไปหมาดๆ สำหรับงาน The Finest Thai ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 กันยายนที่ผ่านมา ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ บนถนนออร์ชาร์ด งานนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ในการที่จะนำเสนอไลฟ์สไตล์และสินค้าแบรนด์ไทยระดับพรีเมียมสู่สายตาของนานาชาติ คาดการณ์กันว่านี่เป็นอีกหนึ่งงานที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อย THE STANDARD ได้ไปเก็บภาพบรรยากาศพร้อมเรื่องราวในงานนี้มาฝากกัน
นายธงชัย ชาสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ เล่าถึงความเป็นมาในการจัดงานนี้ว่า
“ตามปกตินั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์มักจะจัดงาน ‘Thai Festival’ ในเดือนพฤษภาคมของทุกปีอยู่แล้ว และได้จัดติดต่อกันมาถึง 15 ครั้งแล้ว ในแต่ละครั้งก็ได้รับการตอบรับอันดีทั้งจากประชาชนและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ อย่างในครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านมา เราจัดงานกัน 4 วัน มีผู้คนมาเยี่ยมชมมากถึง 8 หมื่นคน และสามารถสร้างรายได้จากงานนี้ได้มากถึง 25 ล้านบาท แต่สำหรับงาน ‘The Finest Thai’ ที่ริเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้มีความแตกต่างจากงานไทยเฟสติวัลที่จัดกันเป็นประจำทุกปีตรงที่เป็นมิติใหม่ซึ่งเราได้เปิดความร่วมมือกับเอกชนเป็นครั้งแรก เพื่อนำเสนอแบรนด์สินค้าและไลฟ์สไตล์ไทยระดับพรีเมียม เป็นการยกระดับแบรนด์ไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็นศักยภาพ”
บริษัทเอกชนไทยที่ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์กล่าวถึงคือ ‘แสนสิริ’ เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งประสบความสำเร็จจากการจัดงาน Sansiri Market Fest ที่จัดขึ้นมาแล้วกว่า 4 ปี โดยงาน The Finest Thai นี้ ทางสถานทูตให้ความร่วมมือโดยเปิดบ้านบนถนนออร์ชาร์ดให้แสนสิริได้มาดำเนินการจัดงาน ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จในการจัดงานไลฟ์สไตล์เฟสติวัลครั้งแรกของแสนสิริในต่างประเทศ
ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 3 วันดังกล่าว คาดว่ามีทั้งชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ตำ่กว่า 6 หมื่นคนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ไทยในนิยามบทใหม่อย่างมีรสนิยมกับ 6 โซนไลฟ์สไตล์สุดฮิป ไล่ตั้งแต่โซนแรก ‘The Finest of Living’ ซึ่งนำโดยแสนสิริ กับการจัดแสดงนิทรรศการในคอนเซปต์ ‘Bangkok’s Finest District’ ถ่ายทอดเรื่องราวไลฟ์สไตล์และวิถีการใช้ชีวิตคนเมืองสุดฮิปและมีระดับในย่านทองหล่อและเอกมัยตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ให้ชาวต่างชาติได้ทำความรู้จักกับไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของเหล่าฮิปสเตอร์ในทำเลศักยภาพที่โอบล้อมไปด้วยสถานที่แฮงเอาต์สุดเก๋ ร้านกาแฟชิคๆ ร้านอาหาร โยคะสตูดิโอ และอื่นๆ อีกมากมาย
โซน ‘The Finest of Cuisine’ สวรรค์ของนักชิมอาหารไทยคาวหวานรสชาติเยี่ยมกว่า 35 ร้านอร่อย จากทั้งร้านชื่อดังในไทยที่ร่วมบินตรงลัดฟ้าไปมอบความอร่อย และร้านอาหารและขนมไทยในสิงคโปร์ รวมทั้งฟู้ดทรัก พบกับเมนูไฮไลต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะงานนี้ เช่น บิงซูรสทุเรียน จาก After You ที่ฮิตเป็นอย่างมาก มีลูกค้ามาต่อคิวซื้อถล่มทลาย เมนูอาหารชาววังจาก Jim Thompson ร้านอาหารไทยฟิวชันจาก Greyhound Cafe ฯลฯ
โซน ‘The Finest of Fashion & Design’ ที่ขนขบวนความฮิปเก๋ คัดสรรโดย Siam Center และ Siam Discovery ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับจาก 4 แบรนด์ไทย ได้แก่ Tube Gallery, Good Mixer, Q Design and Play, Iconic O.D.S. และ FABLAB Multi-Designer House ต่อด้วยโซน ‘The Finest of Craftsmanship’ นำโดยแบรนด์ SACICT และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โซนของที่ระลึก ‘The Finest of Gift’ นำโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ที่ให้ชาวต่างชาติได้ช้อปกับหลากหลายไอเท็มจากกว่า 20 แบรนด์ไทยชั้นนำ ซึ่งได้รับการการันตีด้วยรางวัลสินค้าไทยที่มีดีไซน์โดดเด่น DEmark Award
สุดท้ายคือโซน ‘The Finest of Performances Workshop’ เวิร์กช็อปและการแสดงเอกลักษณ์ไทย ซึ่งมีทั้งคอร์สสอนการประดิษฐ์ตัวอักษรไทย (Thai Calligraphy) การทอผ้าไทย พร้อมกิจกรรมสร้างเสริมจินตนาการของเด็กๆ อย่างการระบายสีตัวการ์ตูนไทยโบราณ รับชมโชว์การทำอาหารและนาฏศิลป์ไทยจาก Jim Thompson ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก Paradise Bangkok Molam International Band วงดนตรีที่ใช้ตัวโน้ตสำเนียงอีสานผสมผสานกับดนตรีสมัยใหม่ กลายเป็นวงแนวหมอลำที่มีท่วงทำนองกลมกล่อม สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปไกลข้ามทวีป มาขับกล่อมบรรเลงสร้างความคึกคักและสนุกสนาน
คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นเพื่อตอกย้ำจุดยืนของแสนสิริที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านให้แก่ลูกค้า นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เราได้ขยายการรับรู้แบรนด์ด้านไลฟ์สไตล์นอกเหนือจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อยกระดับสู่การยอมรับในระดับนานาชาติต่อไป
“โดยงานนี้เราต่อยอดความสำเร็จในไทยจากงาน Sansiri Market Fest ที่จัดขึ้นมาแล้วกว่า 4 ปี เราหวังว่ากิจกรรมรูปแบบนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยขยายฐานลูกค้าต่างชาติของแสนสิริให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายสุดแล้วจะเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในเรื่องของเม็ดเงินจากต่างชาติ ธุรกิจการท่องเที่ยวในไทย และการผลักดันแบรนด์ไทย เพราะลูกค้ากลุ่มนี้คือกลุ่มที่มีคุณภาพและมีกำลังการใช้จ่ายสูง ควรกระตุ้นและเชิญชวนให้เข้ามาในประเทศไทย หลังจากนี้เรายังวางแผนต่อยอดจัดกิจกรรมลักษณะนี้ที่ประเทศฮ่องกงในเร็วๆ นี้อีกด้วย แต่อาจจะภายใต้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ The Finest Thai”
นอกเหนือจากงาน Thai Festival ซึ่งเป็นงานประจำปีที่ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยในสิงคโปร์คาดการณ์ว่า จากความสำเร็จของ The Finest Thai ในปีแรกนี้ ที่ตลอดการจัดงาน 3 วัน มีมาผู้เข้าชมทั้งสิ้นกว่า 1 แสน 2 หมื่นคน ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ มีโครงการที่จะจัดเทศกาลไลฟ์สไตล์ไทยระดับพรีเมียมนี้ในทุกเดือนกันยายนของทุกปี เพื่อเป็นการนำเสนอภาพสินค้าและไลฟ์สไตล์ไทยควบคู่กันไปใน 2 ระดับ
เพราะนอกจากชาวต่างชาติจะได้สัมผัสถึงความเป็นไทยแล้ว ยังเป็นการดึงดูดจูงใจให้อยากจะมาเยือนประเทศไทยต่อไปได้ในอนาคต
- งาน The Finest Thai ยังได้รับความร่วมมือจากอีกหลายภาคส่วน เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ (DITP) และผู้ประกอบการเอกชนชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารไทยพานิชย์, SACICT, สยามเซ็นเตอร์, เอสซีจี, สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, จิม ทอมป์สัน และสมิติเวช เป็นต้น