อธิบดีกรมการจัดหางานเผย เจ้าหน้าที่ตรวจจับดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทยกว่า 6,206 คน จากการตรวจสอบ 371,823 คน พร้อมประสานตำรวจ ฝ่ายปกครองตรวจเข้มทุกพื้นที่ ย้ำแรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตทำงาน หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท
วันนี้ (23 พ.ค.) เพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เผยว่า ทางกรมการจัดหางาน ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการปกครอง เข้าตรวจสอบ, จับกุม และดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตทำงานและแย่งอาชีพคนไทย ทำให้คนไทยได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ซึ่งประเด็นดังกล่าว อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้สั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ และสำนักงานจัดหางานจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานเป็นจำนวน 50,000 คนขึ้นไป เช่น สมุทรสาคร, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร อาทิ เขตห้วยขวาง เขตสุขุมวิท เป็นต้น
พบว่ามีการลักลอบทำงานเป็นจำนวนมาก โดยให้จัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองในพื้นที่ตรวจเข้มการทำงานของแรงงานต่างด้าวและดำเนินคดี ซึ่งตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2561 ถึง 22 พฤษภาคม 2562 ได้ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าวไปแล้วจำนวน 371,823 คน และดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ขายสินค้า เช่น ขายอาหารตามแผงต่างๆ ขายของหน้าร้าน รวมทั้งเร่ขายสินค้า และงานอื่นๆ ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัย วินมอเตอร์ไซค์ นวดแผนไทย และเสริมสวย
ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตามกฎหมาย จำนวน 6,206 คน พบส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมามากที่สุด รองลงมาเป็นเวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, อินเดีย, จีน และอื่นๆ ตามลำดับ โดยได้เปรียบเทียบปรับแรงงานต่างด้าว คิดเป็นเงินค่าปรับรวม 24,793,100 บาท ผลักดันส่งกลับแรงงานแล้ว จำนวน 6,081 คน
“แรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตทำงานและทำงานตรงกับที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยงานที่ทำต้องไม่ใช่งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ หรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบต่อไป” เพชรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: