เจฟฟ์ คูนส์ หนึ่งในศิลปินร่วมสมัยชาวอเมริกันที่ทรงอิทธิพลที่สุด ได้กลายเป็นศิลปินที่ยังมีชีวิตและสามารถขายผลงานได้ในราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ กับผลงานประติมากรรมเหล็กตัวกระต่ายชื่อ ‘Rabbit’ ที่ประมูลไปได้มากกว่า 91 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,800 ล้านบาท ที่ Christie’s ในนิวยอร์กเมื่อวานที่ผ่านมา โดยราคาสูงกว่า 20 ล้านเหรียญจากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 50-70 ล้านเหรียญ
เจฟฟ์ คูนส์ ได้รังสรรค์รูปปั้น Rabbit ในปี 1986 ด้วยขนาด 41 นิ้ว หรือ 104 เซนติเมตร และเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา เทียบเท่ากับผลงาน Balloon Dog เวอร์ชันสีส้มที่ขายได้ราคาสูงสุด 58.4 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2013 ก่อนที่ เดวิด ฮอกนีย์ จะทำลายสถิติไปเมื่อปลายปี 2018 กับผลงานภาพวาดในตำนาน Pool With Two Figures ด้วยยอดประมูล 90 ล้านเหรียญ แต่ 6 เดือนต่อมา เจฟฟ์ คูนส์ ก็ได้สถิติกลับมาครองอีกครั้ง
สำหรับคนที่ชนะประมูลในครั้งนี้คือ โรเบิร์ต มนูชิน นักซื้อขายศิลปะชื่อดังชาวอเมริกัน ที่เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ Mnuchin Gallery ในนิวยอร์ก และเป็นพ่อของ สตีเวน มนูชิน ซึ่งเป็น Secretary of the Treasury ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกายุคโดนัลด์ ทรัมป์ โดยก่อนหน้านี้เจ้าของงาน Rabbit ก็คือ Si Newhouse เจ้าของกิจการบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ Conde Nast ที่เสียชีวิตในปี 2017 ซึ่งเขาได้ซื้อผลงานนี้ในปี 1992 ด้วยราคาราว 1 ล้านเหรียญ
สำหรับงานประมูลซื้อขายของ Christie’s ในครั้งนี้ได้ทำเงินไปราว 538.9 ล้านเหรียญ จากผลงานศิลปะ 51 ชิ้น ซึ่งคิดเป็น 91% จากผลงานทั้งหมด 56 ชิ้น โดยมีผลงานเด่นๆ อาทิ Buffalo II (1964) ของ โรเบิร์ต เราเชนเบิร์ก ขายไปได้ 88.5 ล้านเหรียญ และผลงาน Double Elvis [Ferus Type] (1963) ของ แอนดี้ วอร์ฮอล ที่ขายไป 53 ล้านเหรียญ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: