นับตั้งแต่ความรุนแรงในเมียนมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สหประชาชาติออกมาเปิดเผยว่า มีชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 87,000 คน อพยพเข้าบังกลาเทศแล้ว
ชาวโรฮีนจาที่เข้าถึงประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้เปิดเผยถึงความโหดร้ายจากการสังหารหมู่ตามหมู่บ้านหลายแห่ง และย้ำว่าพวกเขาถูกโจมตีและถูกทหารเผาบ้านเรือนทิ้ง ในขณะที่รัฐบาลออกมากล่าวโทษฝ่ายโรฮีนจาว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว
เหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการปะทะระหว่างฝ่ายผู้ก่อการโรฮีนจาและตำรวจ จนทำให้กองทัพเมียนมาต้องออกมาตอบโต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 400 ราย อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบตัวเลขอย่างชัดเจนไม่สามารถทำได้
ปัจจุบันทางการเมียนมาสั่งปิดกั้นเส้นทางการส่งความช่วยเหลือจากฝ่ายต่างๆ รวมถึงสหประชาชาติที่ต้องการส่งสิ่งของยังชีพ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ หรือยา ให้ผู้ประสบภัยในรัฐยะไข่
เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า เนื่องมาจากสถานการณ์ความมั่นคงและข้อจำกัดการเข้าพื้นที่จากรัฐบาลเมียนมา ซึ่งองค์กรต่างๆ รวมถึง Oxfam และ Save the Children ได้แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีครั้งนี้
หน่วยงานสหประชาชาติออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาไม่สามารถลงสำรวจพื้นที่ได้เป็นเวลานับสัปดาห์แล้ว จนอาจสร้างผลร้ายแรงต่อความพยายามช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ไม่เพียงแต่ชาวโรฮีนจาเท่านั้น แต่ชาวเมียนมาพุทธในพื้นที่ด้วย
‘ซูจี’ เงียบ ท่ามกลางเสียงเพื่อนสันติภาพโนเบล
ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา หรือที่หลายฝ่ายมองในฐานะผู้นำเมียนมาทางพฤตินัย มักปฏิเสธการกล่าวถึงความรุนแรงทางชาติพันธุ์ในประเทศ แต่เมื่อเมษายนที่ผ่านมา เธอให้สัมภาษณ์ผ่านบีบีซีว่า การกล่าวถึงเหตุรุนแรงดังกล่าวในฐานะการกวาดล้างเผ่าพันธ์นั้นรุนแรงเกินไป
ความเงียบของเธอทำให้มีประชาชนเกือบหมื่นคนร่วมลงชื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการโนเบลพิจารณาการถอดถอนรายชื่อหญิงเหล็กรายนี้ออกจากตำแหน่งเพื่อสันติภาพที่เธอถือครอง
มาลาลา ยูซาฟไซ นักสิทธิมนุษยชนชาวปากีสถาน และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเช่นเดียวกับซูจี ได้เรียกร้องให้เธอออกมาประณามโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา ดาไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวทิเบต อีกหนึ่งเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เคยออกมาเรียกร้องให้ซูจีมีความรับผิดชอบในการบรรเทาปัญหาระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมโรฮีนจา โดยระบุว่าเธอได้รับรางวัลดังกล่าวแล้ว เช่นนั้นในทางศีลธรรมแล้ว เธอควรจะพยายามลดความตึงเครียดในประเด็นนี้
ชนกลุ่มน้อยที่ไม่ต้องการ
ขณะนี้เป็นที่ประมาณการณ์ว่าชาวโรฮีนจานับ 1.1 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมียนมา สถานที่ที่พวกเขาไม่ถูกนับเป็นพลเรือน จนทำให้ชนกลุ่มน้อยนี้ถูกเรียกขานในฐานะผู้ถูกกลั่นแกล้งอย่างร้ายแรง
สาเหตุที่พวกเขากลายเป็นยิ่งกว่าชายขอบของสังคมหนึ่งๆ อย่างการเป็นบุคคลไร้รัฐ สืบเนื่องมาจากยุคการปกครองรัฐบาลทหารเมียนมาที่ไม่รองรับพวกเขาในฐานะพลเรือน
ตามข้อมูลของ Human Rights Watch ชาวโรฮีนจาจำนวนมากอพยพเข้าพื้นที่ที่ปัจจุบันกลายเป็นเมียนมาในช่วงอังกฤษปกครอง ด้วยการแต่งตั้งให้พื้นที่แห่งนี้เป็นจังหวัดหนึ่งของอินเดียและบังกลาเทศในปัจจุบัน
สหประชาชาติระบุอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2012 มีชาวโรฮีนจามากกว่า 168,000 คน อพยพออกมาเมียนมาสู่บังกลาเทศ ขณะเดียวกัน สหประชาชาติยังคาดการณ์อีกว่ามีชาวโรฮีนจานับ 420,000 คนที่อพยพไปตามประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีผู้คนพลัดถิ่นในเมียนมาสูงถึง 120,000 คน
https://www.youtube.com/watch?v=g1-VEzmO-rQ
Photo: Emrul KAMAL, Jasmin RUMI, R.ASAD/AFP
อ้างอิง:
- www.france24.com/en/20170904-fleeing-burma-87000-rohingya-muslims-arrive-bangladesh
- www.theguardian.com/world/2017/sep/04/malala-tells-aung-san-suu-kyi-world-is-waiting-for-her-to-act-over-rohingya-violence
- secure.avaaz.org/en/petition/Norwegian_Nobel_Committee_Aung_San_Suu_Kyi_should_be_stripped_of_Nobel_Peace_Prize_immediately
- www.enca.com/world/dalai-lama-urges-suu-kyi-to-ease-myanmars-rohingya-tension
- www.aljazeera.com/indepth/features/2017/08/rohingya-muslims-170831065142812.html