ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาลเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ก่อนจะยกเลิกในเวลา 06.00 น. เช้านี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดเหตุระเบิดโจมตีโบสถ์และโรงแรมหลายแห่งในวันอีสเตอร์ ซึ่งเป็นวันที่คริสต์ศาสนิกชนจำนวนมากออกมาร่วมประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาตามโบสถ์ต่างๆ
ณ เวลา 09.36 น. วันนี้ ตามเวลาไทย ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดอยู่ที่ 207 คน โดยจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 36 คน ประกอบด้วยชาวอังกฤษ 5 คน, โปรตุเกส 1 คน, อินเดีย 3 คน, เดนมาร์ก 3 คน, ตุรกี 2 คน, เนเธอร์แลนด์ 1 คน และญี่ปุ่น 1 คน
เมื่อคืนนี้ รานิล วิกรามาสิงหะ นายกรัฐมนตรีศรีลังกา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้รับข้อมูลข่าวกรองที่บ่งชี้ว่าอาจมีการโจมตีระลอกใหม่ โดยหลังเกิดเหตุช็อกโลก ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน แต่รัฐบาลยังไม่ระบุเจาะจงว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ
เหตุโจมตีเมื่อวานนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันตั้งแต่เวลาประมาณ 08.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่โบสถ์ 3 แห่งในเขตเนกอมโบ (จังหวัดตะวันตก), บัตติคาลัว (จังหวัดตะวันออก) และเขตโกชชิกาเด กรุงโคลัมโบ นอกจากนี้ยังมีโรงแรม 3 แห่งได้แก่ แชงกรีลา, คิงส์บิวรี และซินนามอน แกรนด์ ในกรุงโคลัมโบก็ถูกโจมตีด้วย
ต่อมามีรายงานการระเบิดโจมตีเพิ่มเติมอีก 2 แห่งที่โรงแรมใกล้กับสวนสัตว์เดหิวาลา ทางใต้ของเมืองหลวง และบ้านพักในเขตเดมาตาโกดา
เหตุระเบิดหลายจุดได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่ห่วงสวัสดิภาพของญาติมิตรในศรีลังกา อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านักท่องเที่ยวและผู้พำนักในศรีลังกาจำนวนมากไม่สามารถติดต่อกับญาติผ่านทางโซเชียลมีเดียได้หากไม่เชื่อมต่อผ่าน VPN หรือใช้ซิมการ์ดต่างประเทศ หลังรัฐบาลศรีลังกาได้บล็อกการใช้งานโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook, Instagram และ WhatsApp โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายข่าวปลอมหรือข่าวเท็จในช่วงเวลานี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: