นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาพร้อมกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ กรณีลงมติเห็นชอบพระราชกำหนดกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยมิชอบ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ทั้งนี้เรื่องกล่าวหาดังกล่าวเป็นกรณีกล่าวหาว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ร่วมกันลงมติและเห็นชอบในการออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 169
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 50/2559 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5-7/2555 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ และป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และการตราพระราชกำหนดดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคสอง
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าการตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่งและวรรคสอง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า
“ไม่ปรากฏว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีกับพวก ได้ร่วมกันตราและเห็นชอบพระราชกำหนดดังกล่าวโดยไม่สุจริตหรือใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญ เรื่องกล่าวหาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวกผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป”
สำหรับประเด็นกล่าวหาเรื่องการกู้เงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ประเด็นการดำเนินโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 57 วรรคสอง มาตรา 67 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และประเด็นการกำหนดรายละเอียดขอบเขตของงาน (TOR) ในโครงการดังกล่าวมีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางราย คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์