สถานการณ์ฝุ่นควันในพื้นที่ภาคเหนือยังไม่มีท่าทีลดลง สถานศึกษาหลายแห่งจำเป็นต้องปิดทำการ เพื่อเลี่ยงปัญหาฝุ่น ล่าสุด การรายงานปริมาณฝุ่นจากกรมควบคุมมลพิษพบว่า ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เป็นพื้นที่ค่าฝุ่นสูงที่สุด ขณะที่ผลการตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในภาคเหนือ พบความร้อนมากกว่า 3,088 จุดทั่วทุกพื้นที่
รายงานล่าสุดจากการตรวจวัดค่าฝุ่น โดยกรมควบคุมมลพิษ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2562 ณ เวลา 09.00 น. เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่า ฝุ่นพิษในภาคเหนือยังคงวิกฤตหนัก ซึ่งภาพรวมอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลาง – มีผลกระทบต่อสุขภาพ หลังจากพบว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงถึง 267 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีปัจจัยหลักเกิดจากปัญหาการลอบเผาป่าที่ยังพบอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ยังมีการเปิดเผยจากข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS ผ่านทางเว็บไซต์ Gistda ของวันที่ 1 เมษายน แสดงให้เห็นการตรวจจับความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งตรวจพบจุดความร้อน Hotspot เป็นจำนวน 3,088 จุด โดยค่าความร้อนในแต่ละพื้นที่สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- แม่ฮ่องสอน จำนวน 981 จุด
- เชียงใหม่ จำนวน 615 จุด
- เชียงราย จำนวน 370 จุด
- ลำปาง จำนวน 302 จุด
- น่าน จำนวน 219 จุด
- แพร่ จำนวน 214 จุด
- ตาก จำนวน 211 จุด
- พะเยา จำนวน 116 จุด
- ลำพูน จำนวน 60 จุด
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาฝุ่นที่ยังปกคลุมทั่วพื้นที่ภาคเหนืออยู่ขณะนี้ ทางกรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก ใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- air4thai.pcd.go.th/webV2/region.php?region=2
- fire.gistda.or.th/download.html?fbclid=IwAR2IgJwlQFGM7zD8ySjdbREVUFa5IK5hOdZizEkABC4bk0k_QdYm2Sd3nAo