กูเกิล ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจินและแพลตฟอร์มออนไลน์ ถูกสหภาพยุโรปหรือ EU สั่งปรับเงินเป็นมูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 54,000 ล้านบาท ฐานละเมิดการผูกขาดการโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ เมื่อวันพุธที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
คณะกรรมาธิการยุโรปนำโดย มาร์เกรธ เวสทาเกอร์ กรรมาธิการด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรประบุว่า กูเกิลในฐานะตัวแทนแพลตฟอร์มค้นหาและการลงโฆษณาออนไลน์ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายฐานยึดตำแหน่งทางการตลาดที่มีนัยสำคัญด้วยวิธีการผูกขาดผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาของพวกเขาอย่าง AdSense ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งในโฆษณาออนไลน์ของยุโรปมากกว่า 70% มาตั้งแต่ปี 2006
“การตัดสินใจในวันนี้คือประเด็นที่ว่า กูเกิลใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อยับยั้งเว็บไซต์อื่นๆ ในการใช้ตัวแทนโฆษณาที่ไม่ใช่แพลตฟอร์ม AdSense
“ไม่มีเหตุผลเลยที่กูเกิลจะนำเอาข้อจำกัดมาใส่ในสัญญาเพื่อกีดกันคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ของพวกเขาออกจากตลาด ซึ่งถือเป็นการปิดโอกาสการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาด”
ก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยถูกสหภาพยุโรปสั่งปรับเงินสองครั้งแล้ว โดยครั้งแรกต้องย้อนกลับไปในปี 2017 ที่ถูกสั่งปรับฐานละเมิดกฎหมายการผูกขาดจากบริการการค้นหาสินค้าเป็นมูลค่า 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะถูกปรับอีกกว่า 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2018 กรณีละเมิดการผูกขาดในแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: