การเมืองโลกกำลังร้อนแรง เพราะได้รับอิทธิพลจากการเมืองสหรัฐฯ แรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายกำลังสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมระหว่างประเทศ เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มอุดมการณ์ทางการเมืองในยุโรปเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเยอรมัน ฮังการี และฝรั่งเศส
แรงกดดันที่ถูกสะสมไว้ในอดีตและพื้นที่สาธารณะในการพูดถึงความภาคภูมิใจของคนขาว (White Supremacy) ที่หายไป ส่งผลให้ปะทุออกมาเป็น ‘เหตุการณ์นรกบนดิน’ ที่ชาร์ลอตส์วิลล์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายยังคงดำเนินเรื่อยมาตลอดทั้งสัปดาห์ เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้แสดงอาการลังเลที่จะโจมตีและประณามกลุ่มขวาจัดที่เป็นชนวนเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ผลพวงหนึ่งของแรงปะทะนี้ส่งผลให้ สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) กุนซือด้านการวางกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างและรักษาฐานเสียงฝ่ายขวาให้โดนัลด์ ทรัมป์ จนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อช่วงต้นปี 2017 ถูกทรัมป์ปลดจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) หลังจากที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สตีฟ แบนนอน มีความเห็นไม่ตรงกับสมาชิกทำเนียบขาวท่านอื่นๆ อย่างรุนแรง โดยสตีฟได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มขวาจัดและกลุ่มชาตินิยมคนขาวในสหรัฐฯ อย่างสุดโต่ง
สตีฟ แบนนอน นับเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ จากทั้งหมด 12 คนที่พ้นจากตำแหน่ง ภายใต้การบริหารประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์ นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2017 จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลทรัมป์หลังจากนี้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เนื่องจากบุคคลที่มีความสามารถและอาจจะเป็นกำลังสำคัญให้กับรัฐบาลต่างถูกปลดและประกาศลาออกจากตำแหน่งกันเป็นจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็น แอนโทนี สการามุชชี (Anthony Scaramucci) อดีตผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร ที่อยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 2 สัปดาห์ หรือ ฌอน สไปเซอร์ (Sean Spicer) โฆษกทำเนียบรัฐบาล ที่ประกาศลาออกหลังจากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่แต่งตั้งแอนโทนี เป็นผอ. ด้านงานสื่อ รวมถึง เจมส์ โคมี (James Comey) ผู้อำนวยการเอฟบีไอที่ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากเขาสืบทราบว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมา เป็นต้น
ทรัมป์อาจเสียฐานสนับสนุนฝ่ายขวา หลังปลดกุนซือหัวขวาจัด
หลังจาก สตีฟ แบนนอน บรรณาธิการสำนักข่าวขวาจัด Breitbart และหัวหน้านักวางกลยุทธ์คนสำคัญของทำเนียบขาวถูกปลดจากตำแหน่ง โจเอล โพลลัค (Joel Pollak) บรรณาธิการอาวุโสของสำนักข่าวขวาจัดได้ออกมาทำนายทิศทางการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อจากนี้ โดยกล่าวว่า ทรัมป์กำลังหลงทางและกำลังจะสูญเสียฐานเสียงฝ่ายขวาที่สนับสนุนเขา หลังปลดสตีฟออกจากตำแหน่ง
“ตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์กำลังถูกสั่นคลอนและใกล้จะประสบความล้มเหลว”
นับตั้งแต่การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งของทรัมป์ มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ มาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดแรงปะทะระหว่างฝ่ายขวาจัดและซ้ายสุดโต่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะส่งผลให้คะแนนนิยมในตัวทรัมป์ลดลงอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คาร์ล เบิร์นสเตน (Carl Bernstein) ผู้สื่อข่าวของ CNN รายงานว่า “สมาชิกรีพับลิกันในรัฐสภา เจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูง และนักธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ ต่างตั้งคำถามถึงบทบาทและหน้าที่ของทรัมป์ โดยมองว่า เขาไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนี้” นอกจากนี้วุฒิสมาชิกบางท่านยังแนะนำให้ทรัมป์ไปทำแบบทดสอบวัดระดับปัญหาสุขภาพจิตอีกด้วย
ทางด้าน ผศ.ดร. จันจิรา สมบัติพูนศิริ อาจารย์ประจำสาขาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความขัดแย้งและการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี มองว่า “การที่สตีฟถูกปลดตำแหน่งและกลับไปอยู่สำนักข่าว Breitbart อาจจะยิ่งทำให้การระดมผู้สนับสนุนฝ่ายขวาจัดและชาตินิยมผิวขาวในสหรัฐฯ ให้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองทำได้ง่ายขึ้น เราอาจจะมีโอกาสเห็นเหตุการณ์นรกบนดิน แบบที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ลลอตวิลส์ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
การปลดกุนซือที่มีความคิดขวาจัดจะส่งผลต่อความมั่นคงและทิศทางการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การปะทะกันระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายกำลังดุเดือดในช่วงเวลานี้ และอาจจะทำให้คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีลดลงจาก 36% สร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีคะแนนนิยมน้อยที่สุดในรอบหลายสิบปีก็เป็นได้
…หรือโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะดำรงตำแหน่งไม่ครบวาระ?
อ้างอิง:
- www.newstatesman.com/world/europe/2017/03/rise-nationalists-guide-europe-s-far-right-parties
- money.cnn.com/2017/08/20/media/trump-carl-bernstein-reliable-sources/index.html
- www.yahoo.com/news/donald-trump-apos-presidency-apos-123116839.html?.tsrc=jtc_news_index
- www.yahoo.com/news/police-39-people-detained-over-neo-nazi-march-122150595.html
- www.businessinsider.com/who-has-trump-fired-so-far-james-comey-sean-spicer-michael-flynn-2017-7/#preet-bharara-10
ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 8 เดือนที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี มีบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐฯ พ้นจากตำแหน่งไปแล้วถึง 12 คน ได้แก่
- สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) หัวหน้านักกลยุทธ์คนสำคัญของทำเนียบขาว
- แอนโทนี สการามุชชี (Anthony Scaramucci) ผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร
- ฌอน สไปเซอร์ (Sean Spicer) โฆษกทำเนียบรัฐบาล ลาออกหลังความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล
- เจมส์ โคมี (James Comey) ผู้อำนวยการเอฟบีไอ
- ไรซ์น พรีบัส (Reince Priebus) เสนาธิการทำเนียบขาว ลาออกหลังจากมีเรื่องบาดหมางกับแอนโทนี
- ไมเคิล ดับกี (Michael Dubke) ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของทำเนียบขาว คนก่อนหน้าแอนโทนี
- วอลเตอร์ ชาร์บ (Walter Shaub) ผู้อำนวยการด้านจริยธรรมของรัฐบาล
- ไมเคิล ฟลินน์ (Michael Flynn) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
- แซลลี เยตส์ (Sally Yates) อัยการผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่รัฐบาลโอบามา ถูกปลดจากตำแหน่งหลังจากที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งได้เพียง 10 วัน
- พรีต บาห์ราร่า (Preet Bharara) อัยการสหรัฐฯ
- เคที วอล์ช (Katie Walsh) รองเสนาธิการทำเนียบขาว คนสนิทของไรซ์น และพรีบัส
- ไมเคิล ชอร์ต (Michael Short) ตำแหน่ง Press Aide