เกิดเป็นผู้ชาย สิ่งสำคัญคือ น้องชาย-กระปู๋-จุ๊กกรู-นกเขา-เจ้าโลก แล้วแต่ใครจะขนานนามเจ้าอวัยวะที่บ่งบอกถึงความเป็นชาย ว่ากันว่าเมื่อชายฉกรรจ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงสลบไป 3 วัน 3 คืน ตื่นขึ้นมาสิ่งแรกสุดคือการสำรวจว่าอวัยวะที่อยู่ระหว่างขาว่ายังอยู่ครบดีไหม น้องชายจึงจัดเป็นอวัยวะที่สำคัญยิ่งสำหรับความรู้สึกและการดำรงชีวิต

 

แน่นอนว่า เมื่อมีอาการเจ็บน้องชายหรืออวัยวะสืบพันธุ์ หลายคนวิตกกังวลจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามหมอเพราะอาย ไปค้นคว้าหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็มักจะเจอแต่โรคร้าย บั่นทอนจิตใจเสียเหลือเกิน มาครับ วันนี้เราจะคุยกันว่า อาการเจ็บน้องชายแบบไหนที่ไม่โอเค และคุณควรหาเวลาไปปรึกษาแพทย์ได้แล้ว

 

1. ปวดบริเวณหัวของอวัยวะสืบพันธุ์

ถ้าปวดส่วนหัวของน้องชายแปลกๆ แสบๆ เจ็บๆ ระคายเคือง เป็นแล้วอย่านิ่งนอนใจ อาการเหล่านี้บ่งบอกว่า หัวอวัยวะสำคัญของคุณผู้ชายนั้นอาจอักเสบ ยิ่งหากมีแผล หรือหนองไหล ก็ยิ่งสะท้อนว่าเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้เลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นโรคหนองในแท้ หนองในเทียม (เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย คนละสายพันธุ์กัน) ฝีมะม่วง เริม ซิฟิลิส งูสวัด ฯลฯ มักสัมพันธ์กับประวัติเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

 

บางทีการปวดบริเวณหัว รวมถึงปวดไข่ (อัณฑะ) ก็เป็นอาการปวดร้าวจากการเป็นนิ่วที่ไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน เรื่องนี้ผมเคยมีประสบการณ์ครับ ไม่ใช่ผมเป็นหนองในนะครับ แต่ผมเป็นนิ่วที่ไตจะมีอาการปวดมาก ร้าวลงบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุและขาหนีบ ปวดจนขยับตัวไม่ได้ โดยไม่มีแผล มีหนอง มีน้ำไหลอะไรอย่างอื่น โรคพวกนี้จะต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น ใช้เครื่องมือ อัลตราซาวด์ ทำการตรวจช่องท้องเพื่อตรวจดูไต กระเพาะปัสสาวะ ตรวจหานิ่ว มีการถ่ายภาพเอกซเรย์เพื่อดูท่อไต หรือการนำปัสสาวะไปตรวจ ตลอดจนคุณหมอใช้นิ่วตรวจต่อมลูกหมากและลำไส้ทางทวารหนัก เป็นต้น

 

หากมีอาการปวดหัวกระปู๋ไม่มาก แต่คันๆ เฉยๆ ไม่มีแผลอะไร แดงๆ เล็กน้อย อาจเป็นลักษณะหัวกระปู๋อักเสบทั่วไป หรือเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ ซึ่งเกิดจากการอับชื้น เสียดสีบ่อย โดนน้ำบ่อย ฟอกบ่อย ใช้งานบ่อย หรือติดเชื้อ เช่น เชื้อราบางประเภท บางทีก็เรียกกันว่า ‘สังคัง’ หรือการอักเสบร่วมกับมีขุย บางคนคันแล้วไม่ได้รักษา อาจทำให้มีอาการคันมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยแอบเกาทั้งวัน พอเกาทั้งวัน อาจจะเสียบุคลิกภาพหรือเสียเวลาทำงาน

 

เรื่องของการล้างกระปู๋นี้ยังเป็นเรื่องที่ขอบอกว่า การล้างบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าดี บางคนนึกว่าล้างบ่อยจะสะอาด ใช้สบู่ฟอกเช้า-เย็น เอาน้ำอุ่นราด ปรากฏว่า กลับยิ่งทำให้ระคายเคือง และทำให้ผิวหนังเสียความชุ่มชื้น กลายเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังไปกันใหญ่ ดังนั้น หากจะล้างก็ควรใช้สบู่ที่ไม่ทำลายผิว ให้ความชุ่มชื้น และล้างวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

 

โรคที่ว่ามาเหล่านี้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะใช้เวลาไม่นาน อาจมียาทา ยารับประทาน หรือยาฉีดบางประเภทที่ช่วยได้ หากไม่ได้ให้คุณหมอวินิจฉัยโรค ไม่แนะนำให้ไปซื้อยารับประทานเอง เพราะบางโรคหากได้ยาไม่ถูก จะมีผลระยะยาว เช่น คนเป็นโรคซิฟิลิสแล้วไม่ได้ยาฆ่าเชื้อที่ตรงต่อเชื้อซิฟิลิส เป็นต้น  

 

 

2. ปวดไข่ (อัณฑะ) หน่วงๆ ลงขาหนีบ หรือปวดบริเวณก้อนอัณฑะ

เกิดขึ้นได้ตั้งแต่อัณฑะอักเสบ เส้นเลือดอัณฑะขอด หรือไส้เลื่อน หากมีอาการอาเจียนร่วมด้วย อาจเป็นภาวะไส้เลื่อน แล้วมีไส้บิด หรืออัณฑะบิด โรคกลุ่มนี้จำเป็นต้องรับการผ่าตัดครับ หรือหากพบว่าเป็นท่อนำอสุจิอักเสบหรือซีสต์ในถุงอัณฑะ คุณหมอจะตรวจโดยใช้นิ้วมือและไฟฉาย หรือเครื่องอัลตราซาวด์ไถบริเวณไข่โดยตรง เพื่อช่วยวินิจฉัย แต่หากปวดผิวหนังบริเวณระหว่างอัณฑะร่วมกับร่องก้น อาการนี้บ่งบอกถึงอาการต่อมลูกหมากอักเสบ

 

 

3. น้องชายแข็งค้างแล้วปวด

ถือเป็นอาการอวัยวะแข็งเกร็งเลือดคั่ง เข้าขั้นภาวะฉุกเฉิน ต้องรีบเข้าห้องฉุกเฉินกันเลยทีเดียว บางรายเป็นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ต้องคลุมผ้าห่มพากันไปพบแพทย์ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ ไว้ใจพวกเรา บุคลากรสาธารณสุข ได้ครับ เราเก็บความลับและเห็นเรื่องราวเหล่านี้ไว้เป็นเรื่องปกติมาก สามารถรักษาด้วยยาหรือบางรายอาการเลือดค้างมีมาก ฉีดยาคลายกล้ามเนื้อแล้วยังไม่หาย อาจต้องใช้เข็มสะกิดเพื่อระบายเลือดกันในห้องฉุกเฉินก็มี หากแข็งค้างแล้วปวดเรื้อรังเป็นระยะๆ อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาปลายประสาทอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวกับจิตใจ ดังนั้นปวดแข็งค้างอย่านิ่งนอนใจ เข้าห้องฉุกเฉินเร็วไว ให้คุณหมอรักษา

 

4. ปวดลำกล้อง

ภาษานี้ได้จากเวลาเจอคนไข้ครับ กล่าวคือเป็นอาการปัสสาวะแสบขัด รู้สึกร้อนเจ็บปวดเวลาปัสสาวะ หากปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย บ่งบอกถึงโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ หากเลือดออกทางลำกล้องโดยไม่ปวด อันนี้น่าห่วง เพราะบ่งบอกโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นในแง่หนึ่ง อาการปวดหลายชนิดอาจไม่ใช่โรคร้ายแรง ส่วนไม่ปวดกลับร้ายแรงยิ่งกว่า เพราะถ้าเป็นกลุ่มโรคมะเร็งมักจะไม่ปวด เว้นแต่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ครับ นอกจากนี้อาการขัดลำกล้องยังเป็นลักษณะลำกล้องกระปู๋อักเสบ หรือโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะก็ได้เช่นกัน

 

 

ตรวจเถอะ ไม่ต้องอาย

หากคุณหรือคนข้างเคียงมีอาการปวด แสบ คัน แผล มีหนอง มีเลือดออก หรืออาการอื่นข้างเคียง เช่น อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก น้ำหนักลด ขับถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ คำแนะนำสำคัญคือ ให้รีบพบคุณหมอโดยด่วน ไม่ต้องรีรอ เพราะควรได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอีกหลายประการ

 

เบื้องต้นสามารถพบคุณหมอทั่วไปได้ เพราะอาการเบื้องต้นในบริเวณส่วนนั้น คุณหมอทุกคนที่จบแพทย์ทั่วไปสามารถดูแลได้ แต่หากต้องการพบคุณหมอเฉพาะทาง ก็ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลที่เข้ารักษา ว่ามีคุณหมอท่านใดที่ดูเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง อาทิ หมอผิวหนัง (หมอผิวหนังรักษาโรคติดเชื้อทางอวัยวะเพศเก่งนะครับ) หมออายุรกรรม หมอศัลยกรรมด้านทางเดินปัสสาวะ

 

ในกระบวนการตรวจโดยปกติ คุณหมอมักจะขอให้คุณถอดกางเกงให้คุณหมอดู มิใช่ว่าคุณหมอทะลึ่ง แต่หลายโรคนั้น เมื่อมองเห็นลักษณะด้วยตาของคุณหมอเอง สามารถบอกได้เลยว่าเป็นโรคอะไร แต่การตรวจของคุณหมอมักจะต้องมีพยานบุคคลที่สาม เช่น ผู้ช่วยแพทย์อยู่ด้วยเสมอ เพราะเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย และจะต้องมีการขออนุญาตก่อนสัมผัสคนไข้ทุกครั้ง ในประเทศไทยเราเอง คนไข้ของเราบางส่วนยังมีลักษณะวัฒนธรรมที่แตกต่างกับต่างชาติ ถ้าเป็นคนต่างชาตินั้น การแก้ผ้าทั้งตัวให้คุณหมอดูได้เป็นเรื่องปกติ ของไทยบางคนอาจจะเขินอาย คุณหมอจึงขอแนะว่า ‘อายอาจารย์ไม่ได้วิชา อายภรรยาไม่ได้บุตร ส่วนอายหมอก็อาจจะไม่ได้วินิจฉัย’ หากคนไข้อายจริงๆ ก็ขอให้คุณหมอผู้ชายดูคนไข้ผู้ชายกันสองคน โดยมีผู้ช่วยยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ หรือหลบมุมได้เช่นกันครับ

 

ด้วยความปรารถนาดี ขอให้สุขภาพที่ดีจงมีแก่น้องชายของท่าน

 

ภาพเปิด: Thiencharas W.

ภาพ: Shutterstock

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• www.menshealth.com/sex-women/a19537923/penis-pains
• Fitzpatrick’s Dermatology in General Medicine, 8e
• Lowell A. Goldsmith, Stephen I. Katz, Barbara A. Gilchrest, Amy S. Paller, David J. Leffell, Klaus Wolff