วิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง ย่อมเป็นสิ่งที่แต่ละคน แต่ละองค์กร ต้องกำหนดเองจากการมองถึงปัจจัยต่างๆ รอบตัว โดยเฉพาะในระดับองค์กร การกำหนดวิสัยทัศน์ที่เหมือนจะเป็นแค่ประโยคสั้นๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะวิสัยทัศน์คือสิ่งที่จะต่อยอดนำไปสู่แผนงานต่างๆ เพื่อให้องค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และในยุคที่คำว่า Disruption ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย การจะเลือกทำหรือเลือกไม่ทำอะไร ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายองค์กร ถึงแม้ว่าความเร็วจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำธุรกิจ แต่การทำธุรกิจก็เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน ที่ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อการทำงานระยะยาว และนี่ก็คือเหตุผลที่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศวิสัยทัศน์ครั้งใหญ่ ด้วยการริเริ่มสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้แนวคิด ‘AP World, A New Vision of Quality of Life’
วิสัยทัศน์ดังกล่าวคือพิมพ์เขียวในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นบทบาทที่เอพี กำลังจะมุ่งหน้าต่อไปในอนาคต ในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์และนวัตกรรมการอยู่อาศัยของประเทศไทย ผ่านการทำงานของ 6 บริษัทในเครือที่อยู่ในสายงานธุรกิจอสังหาฯ ซึ่ง 3 ใน 6 คือ ธุรกิจใหม่นอกธุรกิจอสังหาฯ ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวเพื่อเป็นหนึ่งในกลไกในการสร้างระบบนิเวศ (Eco System) ตามวิสัยทัศน์ ‘มอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้คนในสังคม’ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้
28 ปีก่อน บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นการพัฒนาสินค้าที่หลากหลาย มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ ต่อมาจึงได้ต่อยอดธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองแบบครบวงจรในชื่อ BC ที่ช่วยฝากขาย ปล่อยเช่า หาผู้ซื้อคอนโดมิเนียม ที่ไม่ได้จำกัดเพียงสินค้าของเอพี และ SMART บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่า 1,000 คน และประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการคุณภาพชีวิตโครงการต่างๆ กว่า 200 โครงการ ที่ไม่ใช่เฉพาะแค่เครือเอพี
เกือบ 30 ปีที่อยู่ในธุรกิจนี้ เอพี ได้ตัดสินใจเริ่มธุรกิจใหม่ที่นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกและผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนจากปี 2561 ที่สามารถผลักดันธุรกิจโดยรวมให้โตสวนกระแสเศรษฐกิจกว่า 30% ขึ้นแท่นอันดับ 2 ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายได้สูงสุด ในปี 2562 นี้ ทีมงานตั้งเป้าเอาไว้ว่า ภายในปี 2565 ธุรกิจใหม่ทั้ง 3 บริษัท จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้รวมของเอพีเติบโตแบบก้าวกระโดดแตะหลัก 60,000 ล้านบาท
เรามองว่าความน่าสนใจของงานแถลงข่าวนี้ นอกจากตัวเลขผลประกอบการที่น่าตื่นเต้นแล้ว ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ การเปิดตัวธุรกิจใหม่ที่จะมาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหลักอย่างอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายขอบเขตพรมแดนออกไปให้ไกลขึ้น ซึ่ง อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ได้กล่าวถึงเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจถึงภาพรวมของธุรกิจ โดยทั้ง 3 บริษัท ประกอบไปด้วย
บริษัท เคลย์มอร์ จำกัด มีหน้าที่พัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบของคนในสังคม ขับเคลื่อนโดยทีมงานที่มีจิตวิญญาณผู้ประกอบการที่มีเป้าหมายอยากให้นวัตกรรมที่คิดค้นนั้นจับต้องได้และใช้งานได้จริง
บริษัท วาริ จำกัด รับหน้าที่ในการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต (Life Management Ecosystem) ผ่านนวัตกรรมดีไซน์ที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของคนในสังคม เพื่อลดทอนความซ้ำซ้อนที่เป็น Pain ของผู้อยู่อาศัย
SEAC (เอสอีเอซี) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือว่าเอพีได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจการศึกษาที่จะ Disrupt วิธีการเรียนรู้ของคนในองค์กรและคนในสังคมด้วยกระบวนการใหม่ๆ ด้วยการนำหลักสูตรออนไลน์จากสถาบันการศึกษาระดับโลกอย่างเช่น Stanford University มาให้คนไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้เข้าถึง
ทั้งหมดนี้ อนุพงษ์ อัศวโภคิน ได้เปิดเผยถึงวิธีคิดเบื้องหลังเอาไว้ว่า มีความท้าทายที่จะต้องตระหนักอยู่ 3 ประการ ได้แก่
1. โลกกำลัง Disrupt และทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำถามคือ เราจะนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
2. เราจะรู้จักและพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องและตอบรับกับความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบที่แตกต่างกันของคนในสังคมได้อย่างไร
3. เราจะพัฒนาความรู้ความสามารถของ ‘คนในองค์กรและคนในสังคม’ ให้ก้าวทันกระแส Disruption ได้อย่างไร
3 ข้อนี้คือสิ่งที่เราคิดว่าเป็นหัวใจสำคัญที่อยากจะชวนทุกคนมาขบคิดกันต่อถึงการเป็นคนยุค Disruption ที่มีคุณภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเรา และส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า