แสงทองส่องนภาใจ
ที่อ่อนล้ากลับมาตื่นอีกหน
ปล่อยฝันไปกับฟ้าคราม
ไปกับสายลมโลกยังแสนงดงาม
ทันทีที่เสียงร้องที่ทุกคนคิดถึงและเสียงดนตรีที่หนักแน่นถึงใจของเพลง แสงสวรรค์ เริ่มบรรเลง บรรยากาศในงาน Bodyslam Fest วิชาตัวเบา Live in ราชมังคลากีฬาสถาน ก็เต็มไปด้วยโมเมนต์แห่งความสนุก ประทับใจ เต็มเปี่ยมด้วยพลังงานตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ชั่วโมงแบบแทบไม่มีเวลาให้หยุดพักหายใจ
ถึงแม้ ‘วิชาตัวเบา’ จะเป็นคอนเสิร์ตที่ Bodyslam เลือกหยิบเพลงฮิตจากอัลบั้มเก่าๆ มาเล่นไม่มากนักหากเทียบกับคอนเสิร์ตใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา สำหรับเรา นี่นับว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ทำให้รู้ว่า Bodyslam คือวงดนตรีที่ไม่ได้ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต แต่พวกเขามุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปอยู่เสมอ
เสียงของแฟนๆ ที่ยังคงร้องตะโกนในทุกๆ บทเพลงไปพร้อมกับพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าทุกคนยินดีที่จะร่วมเดินทางไปกับบทเพลงใหม่ๆ และก้าวย่างที่เติบโตขึ้นไปพร้อมกับพวกเขาอยู่เสมอ
ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องระบบเสียงที่ทำให้บางพื้นที่ได้ยินเสียงของพวกเขาไม่ชัดไปบ้าง แต่เพอร์ฟอร์แมนซ์ของพวกเขาทั้ง 5 คนก็แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ได้ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีไหน Bodyslam ก็ยังเป็น Bodyslam ที่ ‘ทุ่มสุดตัว’ ในทุกๆ สิ่งที่ทำอยู่เสมอ โดยเฉพาะพลังของฟรอนต์แมนอย่างตูนที่ทำให้เกือบลืมไปว่านี่คือคนที่อายุกำลังจะย่างเข้าเลข 4 ในอีกไม่กี่เดือนหน้าข้างนี้
ขณะเดียวกัน แขกรับเชิญพิเศษทั้ง โจอี้ บอย, ปาล์มมี่ และฟักกลิ้งฮีโร่ ที่มาช่วยเสริมพลังงานให้เดือดพล่านขึ้นไปอีกได้เป็นอย่างดี โดยเสียงของปาล์มมี่เวลาร้องแหล่หมอลำแบบสดๆ สามารถสะกดคนดูได้แบบอยู่หมัด ทุกคนตั้งใจฟังจนเสียงเงียบกริบไปแทบทั้งสนาม …ซึ่งพลังงานที่ว่านี้จะสัมผัสได้เฉพาะในงานคอนเสิร์ตเท่านั้นจริงๆ