การยาสูบแห่งประเทศไทยกำลังมีแผนขึ้นราคาบุหรี่เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่อีกครั้ง โดย ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าปีนี้จะขึ้นภาษีบุหรี่ซองราคาไม่เกิน 60 บาท จาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยจะขึ้นราคาบุหรี่ที่ขายซองละ 60 บาทที่มีอยู่ 5 ยี่ห้อ 10 ชนิด เป็นซองละ 93 บาท ส่วนบุหรี่ที่ขายเกินซองละ 90 บาทก็อยู่ระหว่างการพิจารณาจะขยับราคาขึ้นเป็นซองละกว่า 100 บาท
สำหรับสาเหตุการปรับขึ้นราคาบุหรี่ การยาสูบฯ ไม่ได้มีกำไรเพิ่ม เพราะภาษีสรรพสามิตใหม่คิดคำนวณจากราคาปลีก เมื่อมีการขึ้นภาษีมาถึง 1 เท่าตัว การยาสูบฯ ก็ต้องขยับราคาตาม ไม่เช่นนั้นก็จะขาดทุน โดยกำไรบุหรี่จากอัตราภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีกำไรซองละ 10 สตางค์ หากมีการขึ้นภาษีใหม่ก็ทำให้การยาสูบฯ ขาดทุนจำนวนมากทันที อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลชะลอการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ 40% ออกไปก่อนก็ยังจะขายราคาเดิมโดยไม่ต้องปรับราคา
นอกจากนี้ในปีนี้การยาสูบฯ มีแผนปรับการตลาดเพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้มีการออกบุหรี่ใหม่อีก 1 ยี่ห้อ ขายซองละ 55 บาท ซึ่งเป็นบุหรี่ที่ราคาถูกที่สุดของการยาสูบฯ มาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อไม่สูง
ขณะเดียวกันการยาสูบฯ ยังพิจารณาขยายตลาดยาเส้นเพิ่มเติม โดยจะมีการผลิตออกมาอีกหลายยี่ห้อ เพราะผลสำรวจพบว่านับตั้งแต่รัฐบาลปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ได้ทำให้กลุ่มคนที่มีรายได้ไม่สูงหรือกลุ่มชาวบ้านตามต่างจังหวัดเลิกสูบบุหรี่และหันไปสูบยาเส้นเพิ่ม เพราะมีราคาถูกกว่าบุหรี่มาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรายได้ของการยาสูบฯ ให้มากขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์