‘ใบขับขี่ดิจิทัล’ กรมขนส่งทางบกประกาศอย่างภาคภูมิว่าจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 15 มกราคมนี้ โดยเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม ใบขับขี่ดิจิทัลมีเค้าลางว่าจะเกิดปัญหามาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีคำถามว่า ตำรวจจราจรจะดำเนินการอย่างไรกรณีพบผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร เพราะตำรวจคงไม่มีอำนาจยึดโทรศัพท์มือถือแทนใบขับขี่
ปัญหานี้กลายเป็นปมที่ทั้งกรมขนส่งฯ และตำรวจจราจรโยนกันไปมา
14 ม.ค. นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกประกาศรับรองการใช้งานใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ แต่การบังคับใช้กฎหมายจราจรกับผู้ถือใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ กรณีทำผิดนั้น อธิบดีกรมการขนส่งฯ กล่าวว่า วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลและกำหนดบทลงโทษแทนการยึดใบขับขี่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปวางระบบการดำเนินการต่อไป
ด้าน พล.ต.ต. เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมว่า การใช้แอปพลิเคชันแทนใบขับขี่ตัวจริงยังมีปัญหาทั้งในทางปฏิบัติและในทางกฎหมาย พร้อมให้ประชาชนพกใบขับขี่ตัวจริงไปก่อน
ล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค.) ไทยรัฐออนไลน์ ระบุว่า พล.ต.ต. เอกลักษณ์ บอกว่า ระหว่างนี้ตำรวจจราจรยังมีอำนาจที่จะยึดใบขับขี่ หากไม่สามารถนำใบขับขี่มาแสดงได้ จะมีความผิดเพิ่มอีกข้อหา คือ ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่
โดยขณะนี้มีกฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ. จราจรทางบก กับ พ.ร.บ. ขนส่งทางบก ขัดแย้งกัน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบกให้ทราบแล้ว เพื่อขอให้เลื่อนการใช้ใบขับขี่ดิจิทัลออกไปก่อน จนกว่าการแก้ไขกฎหมายจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติระหว่างผู้ขับขี่กับตำรวจจราจร
อย่างไรก็ตาม หากกรมการขนส่งทางบกยืนยันจะใช้ใบขับขี่ดิจิทัลตามกำหนดที่วางไว้โดยไม่รอกฎหมายใหม่ เชื่อว่าจะมีปัญหาแน่นอน เพราะตำรวจจราจรมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: